Admin 8 ส.ค. 2567

อธิบดีอุทยานฯ ลั่นเอาผิดบริษัททัวร์พานักท่องเที่ยวเข้า “ถ้ำน้ำทะลุ” ทั้งที่เป็นพื้นที่ปิด

อธิบดีอุทยานฯ สั่งเอาผิดบริษัททัวร์ฝ่าฝืนนำนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ “ถ้ำน้ำทะลุ” เขตอุทยานฯ เขาสก จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งๆ ที่เป็นพื้นที่ปิด จนเป็นเหตุให้ไกด์นำเที่ยวเสียชีวิตจากเหตุน้ำป่าทะลักเข้าถ้ำ เสียชีวิต 1 ราย

2024-08-08_09-15-12

จากกรณีเกิดเหตุไกด์นำเที่ยว 2 คน นำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 31 คน เข้าไปในถ้ำน้ำทะลุ หรือ ถ้ำรอด ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเขื่อนรัชชประภา ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งๆ ที่พื้นที่ดังกล่าวได้มีการประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวประจำปี ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.-30 พ.ย.67 ของทุกปี ซึ่งขณะที่ไกด์พานักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวภายในถ้ำ ได้เกิดเหตุฝนตกหนักและต่อเนื่อง น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถ้ำน้ำทะลุท้ายเขื่อนรัชชประภาอย่างรวดเร็ว ในเวลาประมาณ 19.00 น. ไกด์นำเที่ยวจึงโทร.ประสานเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสก เพื่อขอให้เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยว

ล่าสุด วันนี้ (7 ส.ค.) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นายกุลบล พลวัน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ว่า หลังได้รับแจ้งได้นำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาสก เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 31 คน และไกด์นำเที่ยว 1 คนไว้ได้ และนำไปพักที่จุดช่วยเหลือบริเวณแพไกรสร

แต่มีไกด์นำเที่ยวอีก 1 คน ชื่อ นายปองยศ สูญหาย เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งติดตามตัวผู้สูญหายรายดังกล่าว จนกระทั่งเวลา 01.00 น. พบร่างของนายปองยศ เสียชีวิตอยู่ท้ายถ้ำน้ำทะลุ เจ้าหน้าที่จึงได้นำร่างของผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลบ้านตาขุน พร้อมทั้งแจ้งพนักงานสอบสวนเพื่อชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอน

นายอรรถพล เปิดเผยว่า ตนสั่งการไปยังหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดกับบริษัททัวร์ ซึ่งได้ฝ่าฝืนนำนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวยังถ้ำน้ำทะลุ ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติได้มีประกาศปิดแหล่งท่องเที่ยวประจำปี

เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงหน้าฝน มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ถ้ำน้ำทะลุ เป็นประจำทุกปี ในอดีตเมื่อปี 2550 เคยเกิดเหตุน้ำป่าทะลักเข้าถ้ำมาแล้ว เหตุการณ์ครั้งนั้นมีนักท่องเที่ยวและไกด์เสียชีวิต 7 ราย

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงขอฝากเตือนไปยังบริษัทนำเที่ยวทุกแห่ง ตลอดจนนักท่องเที่ยว ขอให้ตรวจสอบการปิดแหล่งท่องเที่ยวประจำปีของอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ตลอดจนการปิดแหล่งท่องเที่ยวในกรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะในช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน หลายพื้นที่มีฝนตกหนักและต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมแหล่งท่องเที่ยวซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ

ซึ่งหากมีการฝ่าฝืนดังกรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้น กรมอุทยานแห่งชาติจะดำเนินการตามกฎหมายกับบริษัททัวร์ที่ฝ่าฝืนอย่างเฉียบขาดต่อไป

ที่มา: MGR Online