Admin 18 ก.ค. 2567

ประมงผวา พบปลาหมอคางดำในทะเลอ่าวไทย

2024-07-18_09-13-52

ชาวประมงพื้นบ้านที่สมุทรปราการ จับปลาหมอคางดำได้นอกเขต 3 ไมล์ทะเล ผ่าท้องพบมี "เคย" อยู่ในท้องจำนวนมาก แจ้งนายกสมาคมประมง นำเรื่องเข้าที่ประชุมหารือแนวทางแก้ไขก่อนสร้างปัญหามากกว่านี้ ขณะที่ประมงจังหวัดยอมรับสมุทรปราการสถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤติ เรื่องรับซื้อ กก.ละ 15 บาท รอคำสั่งอย่างเป็นทางการจากกระทรวงฯ พร้อมปฏิบัติทันที

เวลา 15.00 น. วันที่ 17 ก.ค. 2567 ที่ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสมุทรปราการ หรือ ศรชล.จังหวัดสมุทรปราการ ศรชล.ภาค 1  น.อ.ทิฆัมพร สมนึก รอง ผอ.ศรชล.จว.สมุทรปราการ เป็นประธานในการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ เช่น ประมงจังหวัด อบต.คลองด่าน เทศบาลตำบลคลองด่าน สมาคมประมง จ.สมุทรปราการ สมาคมประมงคลองด่าน รวมถึงผู้แทน สส.สมุทรปราการ เขต 8 พรรคก้าวไกล หลังจากที่ช่วงสายของวันนี้ นายสมพร เกื้อสกุล ประมงจังหวัดสมุทรปราการ ได้เดินทางลงพื้นที่ไปดูจุดที่ชาวบ้านพบมีการระบาดของปลาหมอคางดำที่คลองตาเจียน หมู่ 6 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เพื่อสำรวจพื้นที่จริงและนำกลับมาเป็นข้อมูลในการประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ตามสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ซึ่งอาจไม่เหมือนกัน โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 2.30 ชั่วโมง จึงได้ข้อสรุปเบื้องต้น

นางเกศดา แจ่มเมือง เกษตรกรวังกุ้ง หมู่ 9 บ้านขุนสมุทรจีน ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ หลังประชุมได้นำคลิปวิดีโอปลาหมอคางดำ ที่ถ่ายไว้จากบ่อเลี้ยงกุ้งมาให้ดู พร้อมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้รับผลกระทบจากปลาหมอคางดำเมื่อปลายปี 2566 แต่มาหนักสุดเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ปลาหมอคางดำกิน ทำลายกุ้ง หอยที่เลี้ยงไว้หมดทั้งบ่อ จับได้รวมประมาณ 2 ตัน แต่เวลานั้นไม่มีที่ไหนรับซื้อและไม่มีใครให้ข้อมูลใดๆ จึงจำเป็นต้องนำปลาหมอคางดำทั้งหมดทิ้งลงทะเลไป และต้องหยุดทำธุรกิจบ่อกุ้งอย่างไม่มีกำหนด ส่วนการมาประชุมวันนี้ เริ่มมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เพราะถ้าภาครัฐมีการรับซื้อที่ 15 บาทต่อกิโลกรัม คิดว่าน่าจะทำให้ปลาหมอคางดำมีปริมาณลดลงอย่างรวดเร็ว และตนก็จะกลับมาประกอบอาชีพได้อีกครั้ง

นายพิชัย แซ่ซิ้ม นายกสมาคมการประมง จ.สมุทรปราการ กล่าวว่า ได้รับรายงานว่ามีชาวประมงพื้นบ้านจับปลาหมอคางดำได้นอกเขต 3 ไมล์ทะเล หลังผ่าท้อง พบมีเคย (กุ้งขนาดเล็ก) จำนวนมาก กังวลว่าหากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดปัญหาหนักกับกลุ่มประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์ จึงอยากฝากถึงหน่วยงานภาครัฐช่วยเร่งดำเนินการหาวิธีแก้ไขอย่างรวดเร็ว และขอให้ผ่อนผันกฎหมายการทำประมง ขยายขนาดของเรือ จากไม่เกิน 3 ตันกรอส เป็นไม่เกิน 10 ตันกรอส พร้อมให้คณะกรรมการประมงประจำจังหวัด เป็นผู้กำหนดทั้งรูปแบบ เครื่องมือ พื้นที่และขนาดเรือ เพื่อความคล่องตัวและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

จากนั้นได้พาผู้สื่อข่าวดูบริเวณปลายแม่น้ำเจ้าพระยา ปากอ่าวไทย จุดที่ชาวประมงทอดแหครึ่งชั่วโมง จับปลาหมอคางดำได้ประมาณครึ่งถังพลาสติกเป็นประจำทุกวัน นำมาเทลงพื้นให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมตั้งข้อสังเกตความห่วงใยว่าปลาหมอคางดำอาจจะไปทำลายสัตว์น้ำต่างๆ ในทะเลอ่าวไทยจนหมด และอาจขยายวงกว้างไปสู่ทะเลของประเทศเพื่อนบ้าน สร้างปัญหาอย่างหนัก อาจทำให้สัตว์น้ำในทะเลลึกสูญพันธุ์ก็ได้

ด้าน นายสมพร เกื้อสกุล ประมงจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า ยอมรับปัญหาเรื่องปลาหมอคางดำของจังหวัดสมุทรปราการ ระบาดอยู่ในขั้นวิกฤติ มีประชาชนแจ้งเข้ามาว่านอกจากพบที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ และ ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ แล้ว ยังพบอยู่ในพื้นที่ของ อ.เมืองสมุทรปราการ และที่ ต.เปร็ง อ.บางบ่อ เพิ่มอีก ดังนั้น จึงต้องการให้ความรู้ข้อมูลที่ถูกต้องกับทุกภาคส่วน จะได้เข้ามาร่วมกันจัดการกับปลาหมอคางดำให้หมดไป ส่วนเรื่องราคาที่รับซื้อตอนนี้มีความหลากหลายในแต่ละพื้นที่ โดยล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายให้ภาครัฐช่วยรับซื้อในราคาที่เหมาะสม คือ 15 บาทต่อกิโลกรัม ขณะนี้รอคำสั่งอย่างเป็นทางการ และพร้อมดำเนินการในทันที

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์