Admin 16 มิ.ย. 2566

หมู่เกาะแฟโรฆ่าโลมาไปแล้ว 500 ตัว หลังเริ่มฤดูกาลล่าในเดือนพฤษภาคม

หมู่เกาะแฟโรเริ่มฤดูการล่าโลมาอีกครั้ง และสังหารไปล้วกว่า 500 ตัวนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ท่ามกลางเสียงต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษ์

2023-06-16_09-07-25

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หมู่เกาะแฟโร ดินแดนปกครองตนเองของประเทศเดนมาร์ก ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก เริ่มฤดูกาลล่าโลมาอีกครั้งในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และจนถึงตอนนี้ พวกเขาฆ่าโลมากับวาฬนำร่องไปแล้วมากกว่า 500 ตัว

หมู่เกาะแห่งนี้มีประเพณีที่เรียกว่า grindadráp ซึ่งจะให้นักล่าควบคุมเรือประมงต้อนฝูงโลมาและวาฬนำร่องซึ่งเป็นโลมาสายพันธุ์หนึ่ง ให้ไปเกยตื้น ก่อนที่คนบนชายหาดจะสังหารพวกมันด้วยมีด โดยทุกๆ ฤดูร้อนจะมีภาพซากโลมาที่ถูกล่าเผยแพร่ไปตามสื่อทั่วโลก สร้างความไม่พอใจให้แก่กลุ่มผู้พิทักษ์สิทธิสัตว์ ที่มองว่าประเพณีนี้ป่าเถื่อน

โฆษกของรัฐบาลหมู่เกาะแฟโรเปิดเผยในวันพุธที่ 15 มิ.ย. 2566 ว่า เมื่อวานนี้มีการล่าเกิดขึ้น 2 ครั้ง โดยครั้งหนึ่งจับโลมากับวาฬนำร่องได้ได้ 266 ตัว ส่วนอีกครั้งหนึ่งจับได้ 180 ตัว ซึ่งการล่า 2 ครั้งล่าสุดทำให้ฤดูกาลนี้มีการล่าเกิดขึ้นแล้ว 5 ครั้ง

หน่วยงานเอ็นจีโอ Sea Shepherd ซึ่งเคยขับเรือออกไปขัดขวางการล่าโลมาได้สำเร็จเมื่อปี 2557 ออกมาประณามหลังพวกเขาพบว่ามีเรือของกองทัพเรือเดนมาร์ก ได้รับอนุญาตจากทางการให้มาหยุดเรือของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่พยายามเข้าไปขัดขวางการล่าอีกครั้ง

ทั้งนี้ ประเพณีการล่าโลมายังได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากชาวหมู่เกาะแฟโร โดยฝ่ายที่สนับสนุนระบุว่า สัตว์เหล่านี้เป็นอาหารของประชาชนท้องถิ่นมานานหลายร้อยปีแล้ว และกล่าวหาสื่อกับองค์กรเอ็นจีโอต่างชาติ ว่า ไม่เคารพประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่น

ตามปกติแล้ว ในแต่ละฤดูกาลจะมีวาฬนำร่องถูกฆ่าประมาณ 800 ตัว แต่ในปี 2565 กลับมีโลมากับวาฬนำร่องถูกฆ่าไปมากถึง 1,400 ตัว ซึ่งเยอะกว่าปกติจนแม้แต่คนท้องถิ่นยังออกมาแสดงความไม่พอใจ ทำให้รัฐบาลหมู่เกาะแฟโรออกคำสั่งจำกัดไม่ให้ล่าเกิน 500 ตัวต่อปี

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์