Admin 12 มิ.ย. 2566

ชวนบริจาคเปลือกหอย เพิ่มบ้านใหม่ให้ "ปูเสฉวน" ไม่ต้องอาศัยในขยะทะเล

2023-06-12_09-07-34

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ชวนผู้สนใจบริจาคเปลือกหอย เพิ่มบ้านให้แก่ปูเสฉวน ไม่ต้องหาขยะจากทะเลมาทำเป็นที่อยู่อาศัย

วันที่ 10 มิถุนายน 2566 มีรายงานว่า แฟนเพจ ส่วนอุทยานแห่งชาติ สํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 นครศรีธรรมราช ได้เผยถึงโครงการคืนบ้านให้ปูเสฉวน ซึ่งเกิดจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาเป็นพื้นที่ที่มีปูเสฉวนอยู่เป็นจำนวนมาก ปูเสฉวนบางตัวไม่มีบ้านหรือเปลือกหอย ทำให้ต้องหาขยะจากทะเลมาทำเป็นที่อยู่อาศัย เช่น พวกฝาพลาสติก ขวดแก้ว ฯลฯ แทนเปลือกหอย ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาจึงอยากหาบ้านให้ปูเสฉวนเหล่านี้

ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา มีวัตถุประสงค์ในการรับบริจาค เพื่อเป็นการเพิ่มบ้านให้แก่ปูเสฉวนและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ทรัพยากรทางทะเล โดยเฉพาะปูเสฉวนในพื้นที่เกาะลันตา จ.กระบี่ และมีเป้าหมายในการรับบริจาคเปลือกหอยเฉพาะเปลือกหอยฝาเดียว (ขนาดใหญ่) ได้ทุกชนิดทั้งหอยน้ำจืด หอยทะเล และได้ทุกขนาด

เน้นการรับบริจาคเปลือกหอยเหลือทิ้งที่มาจากการบริโภค หรือเปลือกหอยจากทำโมบายเหลือใช้ในครัวเรือน และไม่สนับสนุนการเก็บเปลือกหอยจากชายหาดเพื่อนำมาบริจาค เนื่องจากไม่อยากให้เก็บเปลือกหอยจากหาดหนึ่ง มาบริจาคให้อีกหาดหนึ่ง ซึ่งจะทำให้พื้นที่เหล่านั้นเสียสมดุลทางธรรมชาติไปด้วย จึงอยากได้เปลือกหอยที่เหลือจากการกินและนำของเหลือทิ้งมาใช้ให้เกิดประโยชน์

โดยกิจกรรมล่าสุดของการคืนบ้านให้ปูเสฉวนนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2566 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ได้ร่วมกับโรงแรมอะวานี่พลัสลันตา (AVANI+LANTA) และมีสมาชิกเข้าร่วมกิจกรรมนี้กว่า 30 คน ซึ่งมีการบริจาคและรวบรวมเปลือกหอยได้กว่า 70 กิโลกรัม และนำบ้านเปลือกหอยเหล่านี้ไปมอบให้บรรดาปูเสฉวนที่บริเวณชายหาดแหลมโตนด ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา

สำหรับวัตถุประสงค์ของกิจกรรมนี้ คือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตาจะรวบรวมเปลือกหอยฝาเดียวที่เหมาะสมจากผู้บริจาค ส่งต่อเปลือกหอยไปยังผู้ประกอบการที่ต้องการร่วมกิจกรรมและนำเปลือกหอยไปวางไว้ ณ จุดที่เหมาะสมเพื่อให้ปูเสฉวนนำเปลือกหอยไปใช้เป็นบ้านปูเสฉวนต่อไป

ผู้สนใจโครงการคืนบ้านให้ปูเสฉวน สามารถส่งมาได้ที่ 59 ม.5 อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา กระบี่ 81150 หมายเลขโทรศัพท์ 075-656576

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์