Admin
17 ธ.ค. 2561
น้ำมันสีดำลอยเกลื่อนหาดหน้าโรงแรมดังที่ภูเก็ต คาดเรือใหญ่เททิ้งในทะเล
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตะลึง! น้ำมันสีดำลอยติดเกลื่อนชายหาดหน้าโรงแรมดัง บริเวณอ่าวตั้งเข็น ต.วิชิต จ.ภูเก็ต คาดเรือใหญ่ปล่อยทิ้ง เร่งทำความสะอาดด่วน ก่อนกระทบชายหาด สิ่งแวดล้อม พร้อมเร่งหาตัวคนผิด
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 16 ธ.ค. 61 นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ร.ต.เทิดเกียรติ อ่อนเมือง รอง ผอ.รมน.จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายวิวัธน์ ชิดเชิดวงศ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต นายณฐวรรณ จำลองกาศ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดภูเก็ต นายกรีฑา โชติวิชญ์พิพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต นางบุษยา ใจเปี่ยม ประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบน้ำมันสีดำจำนวนมากลอยมาติดบริเวณชายหาดหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง บริเวณอ่าวตังเข็น บ้านอ่าวมะขาม หมู่ 8 ตำบลวิชิต อำเภอเมือง
นายธัญญวัฒน์ ชาญพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในช่วงเวลา 07.30 น. วันนี้ (16 ธ.ค.) ได้รับรายงานจากสถานประกอบการในพื้นที่อ่าวตังเข็น ว่า พบคราบน้ำมันมีสีดำในทะเล และถูกคลื่นซัดมาบนชายฝั่งและชายหาด ระยะทาง 315 เมตร ทำให้น้ำทะเลและหาดทรายกลายเป็นสีดำ นอกจากนั้น ยังมีซากหญ้าทะเลถูกคลื่นซัดมาบริเวณชายหาดจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณชายหาดและในทะเลคลื่นได้ซัดน้ำมันลักษณะสีดำเข้ามาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งบริเวณที่เกิดเหตุมีกลิ่นน้ำมันด้วย ในเบื้องต้น คาดว่าน้ำมันดังกล่าวเป็นน้ำมันดิบที่ใช้กันในเรือขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม ภายหลังตรวจสอบได้มีการวางแผนร่วมกันในการกำจัดคราบน้ำมันบริเวณชายหาด รวมทั้งน้ำมันที่ลอยอยู่ในทะเลซึ่งถูกคลื่นซัดเข้ามาบริเวณชายหาดอย่างต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้เทศบาลตำบลวิชิต ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3 สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการกำจัดคราบน้ำมัน ในเบื้องต้นได้มีการวางทุ่นกั้นบริเวณจุดที่มีคราบน้ำมันในทะเลเพื่อป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันกระจายไปยังจุดอื่น ส่วนการหาคนที่ทำให้เกิดคราบน้ำมันนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะต้องเร่งหาตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
จากนั้นเจ้าหน้าที่ และกำลังพลจากทัพเรือภาคที่ 3 รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลวิชิต และพนักงานโรงแรม นำเครื่องมือมาช่วยกันตักคราบน้ำมันที่อยู่บนหาดทรายออก ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน จึงจะสามารถกำจัดคราบน้ำมันออกจากทะเลทและชายหาดได้ทั้งหมด ซึ่งจะต้องรอช่วงน้ำขึ้นน้ำลงด้วย
ขณะที่ นายณฐวรรณ จำลองกาศ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของการตรวจสอบคุณภาพน้ำ ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตัวอย่างน้ำในพื้นที่ พบว่า น้ำในที่เกิดเหตุยังคงมีสภาพปกติไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในส่วนของคราบน้ำมันที่พบเจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจสอบว่าเป็นน้ำมันประเภทใดเพื่อที่จะได้ใช้เป็นฐานข้อมูลว่าน้ำมันดังกล่าวใช้ในเรือประเภทใดเพื่อที่จะสืบไปยังเรือที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดคราบน้ำมันในครั้งนี้
