Admin
13 พ.ย. 2561
รอง ผวจ.ระยอง นำทีมลุยปิด 13 รีสอร์ทรุกทะเล
นายธีรวัฒน์ สุขสุด รอง ผวจ.ระยอง นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผอ.สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 นายประเวศน์ สุภาชัย ผอ.สำนักงานเจ้าท่า สาขาระยอง น.อ.อำนรรฆ ภมรพล รอง ผอ.รักษาความมั่นคงภายในจังหวัดระยอง นายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านเพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเกี่ยวกับกรณี มีนายทุนก่อสร้างรีสอร์ท รุกทะเลบริเวณเขื่อนหินกันคลื่น คลื่น ม.2 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ห่างจากฝั่งบ้านเพประมาณ 500 เมตร สร้างเป็นห้องพักให้เช่าพร้อมร้านอาหารบริการ จนทำให้ระบบนิเวศน์ทางทะเลเสียหายเพราะมีการปล่อยน้ำเสียลงทะเล ผลการประชุมสรุปว่ารีสอร์ทที่สร้างรุกทะเลหลังเขื่อนหินมีทั้งหมด 13 แห่ง โดยเป็นการก่อสร้างบุกรุกทั้งหมด และ ผิดกฎหมายมาตรา17 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จึงได้ทำหนังสือเพื่อเดินทางไปปิดประกาศบนแพที่พักทั้ง13แห่ง เพื่อให้รื้อถอนภายใน30 วัน ต่อมา นายธีรวัฒน์ รอง ผวจ.ระยอง และคณะ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ได้ ไป บริเวณแพรีสอร์ท เมื่อเดินทางไปถึง พบว่ารีสอร์ท12แห่ง ได้ปิดตัวเงียบ เหลือเพียง แพป้าติ๊ด ที่มีการก่อสร้างด้วยไม้ไผ่อย่างสวยงาม รวมทั้งหมด 10 ห้องพัก และ มีลานห้องอาหาร เข้าไปตรวจสอบพบมีพนักงานยังคงทำงานกันอยู่ภายในรีสอร์ท เมื่อตรวจสอบห้องน้ำพบว่าไม่มีบ่อกักเก็บโดยปล่อยทิ้งลงไปในทะเล นอกจากนี้น้ำซักล้างและทำครัวถูกทิ้งลงทะเลเช่นกัน จากการสอบถามพนักงานทราบว่าเจ้าของแพรีสอร์ทกำลังเดินทางกลับมา
ต่อมานายไพโรจน์ คร้ามสมอ อายุ 41 ปี เจ้าของแพรีสอร์ทป้าติ๊ด ได้เดินทางมายังแพ พร้อมกับรับฟังคำสั่งของทางเจ้าหน้าที่มาแจ้งปิดประกาศ โดย เปิดเผยว่า เพิ่งมาเปิดเป็นห้องพักและปรับปรุงแล้วเสร็จเมื่อต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ ได้เปิดเป็นห้องพักเล็ก และ เลี้ยงปลาในกระชัง มาเป็นเวลากว่าสิบปีแล้ว โดยไม่คิดว่าจะเป็นการผิดกฎหมาย ซึ่งก็ยอมรับผิดและยินยอมรื้อออกตามคำสั่ง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ ผู้ประกอบการทั้ง 13 ราย กับพนักงานสอบสวน สภ.เพ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับการบุกรุกและทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเล ความผิดตามมาตรา17 พรบ.ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558.