Admin 29 ต.ค. 2561

กรมเจ้าท่า ชี้แจงกรณีการดำเนินการเสริมทรายชายหาดสมิหลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พร้อมเร่งรัดงานให้ผู้รับจ้างดำเนินงานให้เป็นไปตามสัญญา

1-1

นายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า ชี้แจงกรณีที่มีการเสนอข่าวเกี่ยวกับข้อกังวลของเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดสงขลาที่มีต่อโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งหาดสมิหลา-หาดชลาทัศน์ อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา ซึ่งมีความคืบหน้าเพียงร้อยละ 10 และสัญญาได้สิ้นสุดแล้วเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา รวมทั้งกรณีที่ผู้รับเหมาไม่ได้เติมทรายมาแล้วกว่า 3 เดือน ว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการเติมทรายชายหาดที่ได้นำทรายที่ถูกกัดเซาะและพัดพาไปตกตะกอนทับถมบริเวณแหลมสนอ่อน เพื่อนำกลับมาเติมที่หาดสมิหลาในบริเวณที่ถูกกัดเซาะ

โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มพื้นที่ชายหาดประมาณ 50 ? 150 เมตร ตามแนวยาวของชายหาด ระยะทางประมาณ 3.6 กิโลเมตร ตั้งแต่บริเวณสนามกีฬาติณสูลานนท์ไปสิ้นสุดที่บริเวณชุมชนเก้าเส้ง โดยมีกำหนดการแล้วเสร็จวันที่ 18 ตุลาคม 2561 วงเงินงบประมาณ 269,600,000 บาท เพื่อช่วยเยียวยาและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายหาดสมิหลา ส่งเสริมการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนทั้งในระดับภูมิภาคและท้องถิ่น รวมทั้งยังสามารถรักษาทัศนยีภาพชายหาดไว้ได้ดังเดิม

สำหรับสาเหตุที่ทำให้การดำเนินโครงการล่าช้า เนื่องมาจากการดำเนินงานเริ่มแรกต้องทำการสำรวจหาแหล่งทรายและจำนวนทรายที่เหมาะสมมาใช้ รวมทั้งการดำเนินการตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น การประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้โครงการ การล้อมรั้วครอบคลุมพื้นที่ การติดตั้งม่านดักตะกอน การตรวจวัดค่าต่างๆ และการดำเนินการตามข้อร้องขอของท้องถิ่น เป็นต้น ทำให้ช่วงการทำงานติดฤดูมรสุมประกอบกับช่วงที่สามารถดำเนินการได้มีการวางแผนการทำงานที่ไม่สอดคล้องกับเครื่องมือและเครื่องจักรอุปกรณ์ที่นำมาใช้เป็นเหตุให้การทำงานไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควร

โดยที่ผ่านมากรมเจ้าท่าได้มีหนังสือเร่งรัดงานต่อผู้รับจ้างมาโดยตลอด รวมทั้งยังได้เรียกผู้บริหารของบริษัทมาร่วมหารือแนวทางแก้ไข พร้อมทั้งให้ปรับปรุงวิธีการทำงาน เพื่อให้การดำเนินงานแล้วเสร็จโดยเร็วหลายครั้ง และสำหรับการจ่ายเงินค่าจ้าง กรมเจ้าท่าได้จ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้างเฉพาะส่วนที่ผู้รับจ้างได้ดำเนินการจริงตามเงื่อนไขในสัญญาเท่านั้น

ปัจจุบันผู้รับจ้างได้ดำเนินการเติมทรายในพื้นที่ดังกล่าวแล้วในปริมาณ 60,000 ลูกบาศก์เมตร พร้อมทั้งได้นำเสนอแผนการทำงานและการเพิ่มเครื่องมือ เครื่องจักรที่เหมาะสมตามสภาพการทำงาน เพื่อมาดำเนินงานในช่วงหลังมรสุมสิ้นสุด

โดยคาดว่าจะเริ่มงานได้ในช่วงต้นปี 2562 และจะดำเนินงานให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2562 ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าได้มีหนังสือแจ้งต่อบริษัทในเรื่องค่าปรับที่ดำเนินงานล่าช้ากว่าสัญญาจ้าง พร้อมทั้งแจ้งเงื่อนไขข้อกำหนดในสัญญา เพื่อแจ้งให้ผู้รับจ้างเร่งรัดงานให้เป็นไปตามสัญญา มิฉะนั้น กรมเจ้าท่าจะดำเนินการบอกเลิกสัญญาตามระเบียบต่อไป

ที่มา:http://thainews.prd.go.th/website_th...O6110280010008