Admin
6 ก.ค. 2560
ปตท.คลังน้ำมันศรีราชา ซ้อมแผนน้ำมันรั่วไหลลงทะเล อ่าวแหลมฉบัง
ศูนย์ข่าวศรีราชา - ปตท.คลังน้ำมันศรีราชา ฝึกซ้อมแผนน้ำมันรั่วไหลลงทะเล อ่าวแหลมฉบัง หลังเกิดเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันชนท่าเทียบเรือ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุการณ์จริง สามารถรองรับสถานการณ์ได้ทันท่วงที
วันนี้ (5 ก.ค.) นายภัทรพร อาวรุ่งเรือง ผู้จัดการฝ่ายคลังปิโตรเลียมส่วนภูมิภาค เป็นประธานการฝึกซ้อมเหตุน้ำมันรั่วไหลลงทะเล ที่อ่าวแหลมฉบัง โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษ ศูนย์ควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำศรีราชา โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ โรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา เทศบาลนครแหลมฉบัง และผู้นำชุมชนในเขตแหลมฉบัง ร่วมดูแผนการฝึกซ้อมครั้งนี้ ณ ห้องประชุมคลังน้ำมันศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และหลังจากนั้น ได้ไปดูแผนการฝึกซ้อมจริงบริเวณอ่าวแหลมฉบัง ตรงคลังน้ำมัน ปตท. เขาบ่อยา
โดยการฝึกซ้อมครั้งนี้ สมมติมีเรือขนถ่ายน้ำมัน PN-2 บรรทุกน้ำมัน HSD มาส่งที่ท่าเทียบเรือของ ปตท.เขาบ่อยา ท่า 6 และเกิดอุบัติเหตุหัวเรือด้านกราบขวาชนพุกคล้องเรือ เป็นผลให้ผนังห้องสินค้าทะลุ มีน้ำมันรั่วไหลสู่ทะเล จำนวน 2,000 ลิตร และน้ำมันที่รั่วไหลไหลจากท่าเทียบเรือหมายเลข 6 ไปยังท่าไทยออยล์ โดยพนักงานบริเวณท่าเทียบเรือเห็นเหตุการณ์ได้รายงานไปยังห้อง Control Room คลังน้ำมันศรีราชา เข้าระงับเหตุ พร้อมประสานหน่วยงานในพื้นที่เข้ามาช่วยเหลือ เช่น ศูนย์ควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล กรมเจ้าท่า ตำรวจน้ำศรีราชา โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ โรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา ที่อยู่ใกล้เคียงกัน
นายภัทรพร กล่าวว่า การฝึกซ้อมแผนในครั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมในการระงับเหตุฉุกเฉินหากเกิดน้ำมันรั่วไหลลงทะเล ประกอบด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ การประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และอุปกรณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน ซึ่งหากเกิดขึ้นเกิดขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน และสภาพแวดล้อมในทะเล โดยการฝึกซ้อมดังกล่าวจะมีขึ้นเป็นประจำทุกปี
สำหรับการฝึกซ้อมครั้งนี้ถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยสามารถระงับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่เห็นเหตุการณ์ทราบทิศทางลม และกระแสน้ำ พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่กางบูมสกัดคราบน้ำมันไว้ได้ภายในวงจำกัด และฉีดน้ำยาขจัดคราบ โดยใช้เวลาเพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมง สถานการณ์ก็เข้าสู่สภาวะปกติ
ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000068395
