Admin
5 ก.ค. 2560
เร่งจัดระเบียบชายหาดเขาหลัก พร้อมช่วยเหลือชาวบ้านได้รับผลกระทบ
พังงา - เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาวิธีผ่าทางตันช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าริมหาดเขาหลัก 5 หมู่บ้าน ที่ได้รับความเดือดร้อนหนักจากการจัดระเบียบชายหาด ด้านประชาชนขอขอบคุณที่ช่วยลงมาแก้ไขปัญหาให้สามารถประกอบอาชีพ
เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่เทศบาลตำบลคึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พล.ต.จะนะ ปรีชา เสนาธิการกองทัพภาคที่ 4 ได้เรียกประชุมคณะทำงานการแก้ไขปัญหาการจัดระเบียบชายหาด ซึ่งประกอบไปด้วย อัยการ ฝ่ายปกครอง องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ประชาชน ภาคธุรกิจ และผู้ถือกฎหมาย เข้าร่วมชี้แจงเพื่อหาข้อสรุป
พบว่า ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฉบับล่าสุด ได้ห้ามทำประโยชน์ในพื้นที่สาธารณะที่ต่อเนื่องกับพื้นที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดูแล ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบชายหาด และพื้นที่สาธารณะติดชายหาด
โดยหลังจากปี 2557 ที่รัฐบาล คสช. ได้มีนโยบายให้จัดระเบียบชายหาด และผู้ยึดครอง ถือครองที่สาธารณะทั่วประเทศ ทำให้ประชาชนที่ประกอบอาชีพเกี่ยวเนื่องต่อการท่องเที่ยวโดยใช้พื้นที่สาธารณะต่อเนื่องกับชายหาดเป็นสถานที่ตั้งร้านค้าในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเขาหลัก บริเวณ ม.1 ม.2 ม.3 ม.5 และ ม.6 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบเป็นจำนวน 89 ราย โดยพบว่าในขั้นตอนกระบวนการเยียวยาไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทันท่วงที เนื่องจากติดข้อกฎหมาย และการขอใช้พื้นที่เป็นจำนวนมาก ทำให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบไม่มีรายได้ และฝ่าฝืนคำสั่ง เข้าไปประกอบอาชีพจนโดนจับกุมหลายราย
พล.ต.จะนะ กล่าวสรุปในที่ประชุมว่า เราในฐานะที่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องมีทางออกให้แก่พี่น้องประชาชน และต้องเป็นไปตามหลักกฎหมาย ซึ่งการแก้ไขปัญหาคงไม่ได้จบภายในเร็ววัน แต่จะต้องเป็นไปตามแผนงาน และเวลาที่กำหนด โดยกฎหมายและการปฏิบัติต้องไปพร้อมกัน ซึ่งพบว่าแนวทางในการแก้ไขปัญหาทางด้านกฎหมายต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหานาน ไม่ว่าจะเป็นการยกเลิก หรือแก้ไขกฎกระทรวงทรัพย์ การขอใช้พื้นที่ นสล.(หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เป็นหนังสือแสดงสิทธิในการขอใช้ประโยชน์หรือร่วมกันใช้ที่ดินในเขตราชพัสดุ หรือเขตสาธารณประโยชน์ ออกโดยกรมที่ดิน) ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อนุญาต
ระหว่างนี้จะใช้วิธีการแก้ไขปัญหาโดยวิธีรัฐศาสตร์ ด้วยการผ่อนผันไปก่อนระหว่างรอการแก้ไขปัญหาด้านกฎหมาย หรือได้ข้อยุติ ข้อยุติในวันนี้เป็นเพียงกรอบกว้างๆ จะต้องให้คณะกรรมการร่วมกันปรึกษาหารือลงไปตรวจพื้นที่ และกำหนดให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน และให้เน้นย้ำเรื่องการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ความสะอาด ไม่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว และจะต้องไม่มีการยึดครอง ถือครองพื้นที่ หรือเรียกค่าเช่า ซึ่งหากพบการกระทำดังกล่าวจะถือเป็นการทำผิดกฎหมายทันที
ด้าน น.ส.ชุติมา มัณฑนานุชาติ ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบชายหาด กล่าวว่า จากการจัดระเบียบตั้งแต่ปี 2557 ทำให้ชาวบ้าน 100% ไม่ได้ประกอบอาชีพ และชาวบ้านส่วนหนึ่งโดนจับกุมในความผิดกฎหมายอาญา ทำให้ช่วงที่ผ่านมา ไม่มีรายได้ ซึ่งพบว่าในครั้งนั้นรัฐบอกว่าจะมีการจัดสรรพื้นที่ให้แต่ก็ยังไม่ได้ดำเนินการจัดสรร หรือจัดระเบียบที่ชัดเจน
ส่วนการประชุมในวันนี้ก็เป็นที่น่าพึงพอใจในระดับหนึ่ง ซึ่งมีคณะทำงานจากหลายภาคส่วนเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ผ่านห้วงเวลาหนึ่งไป ด้วยการให้ชาวบ้านได้มีการผ่อนผันในการเข้าไปประกอบอาชีพแบบล้อเลื่อน
ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000068315