News

ผู้ว่าฯตรังออกโรงแจงแก้ปัญหาคลื่นซัดชายหาดเกาะลิบง เบื้องต้นเพิ่มไม้วางกั้นคลื่น

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 29 พฤษภาคม รายงานจากจังหวัดตรังแจ้งว่า หลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดตรัง ตลอดระยะเวลา 1-2 วันที่ผ่านมาบริเวณทะเลตรัง มีคลื่นลมแรงและสูงซัดเข้าชายฝั่ง ทั้งนี้ในพื้นที่ชายหาด หมู่ 5 บ้านหลังเขา ต.เกาะลิบง อ.กันตัง ชาวประมงพื้นบ้านที่ปลูกสร้างบ้านอยู่ติดริมทะเลได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยที่กระแสคลื่นแรงซัดชายหาดและบ้านพังไปหลายหลังคาเรือน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมาปรากฎเป็นประจำแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการแก้ไขให้ความช่วยเหลือจากภาครัฐและ อบต.เกาะลิบงมาแล้วก็ตาม

เกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้สัมภาษณ์ว่า ความเดือดร้อนของชาวบ้าน หมู่ 5 บ้านหลังเขา ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ที่ชายหาดถูกคลื่นซัด มาถึงบ้านชาวบ้าน และมีการร้องเรียนว่า ไม่มีหน่วยงานใดมาช่วยเหลือ เรื่องดังกล่าวทางจังหวัดไม่ได้นิ่งดูดาย ให้ความช่วยกันมาหลายปีแล้ว โดยเมื่อ 2-3 ปีก่อน อบต.ซึ่งเป็นหน่วยงานเบื้องต้น ก็ได้ใช้งบประมาณ 9 แสนบาท สร้างแนวไม้กั้นคลื่น และมีหิน แต่ปรากฏว่าไม่สำเร็จพอคลื่นมาก็พังหมด

นายศิริพัฒกล่าวอีกว่า เมื่อปีที่ผ่านมาทราบว่ามีการแจ้งทางจังหวัดทราบ ซึ่งทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสมัย ลงไปดูแล้ว ได้ทำหนังสือ ด้วยการขอใช้เงินงบป้องกันฯที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถอนุมัติได้ แต่ทางสำนักงาน ผภ.แจ้งว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในขณะเดียวกันจึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบใช้งบประมาณปกติดำเนินการ จึงได้แจ้งไปยังสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตรัง จัดทำแผนโครงการแก้ปัญหาออกแบบผนังกั้นคลื่น ความยาว220 เมตร จากความยาว 320 เมตร ใช้เงินเกือบ 100 ล้าน ในขณะที่ออกแบบก็ได้เชิญทางผู้เชียวชาญของ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เข้ามาสำรวจแล้ว

"อีกทั้งบริเวณดังกล่าวติดกับเขตห้ามล่าฯ กรมอุทยานฯรับผิดชอบพื้นที่ โดยให้ความเห็นว่า ไม่เห็นด้วยที่จะใช้โครงสร้างแข็ง เพราะไม่เป็นหลักประกันได้ว่า หากสร้างจุดนี้แล้ว จะทำให้จุดอื่นไม่กัดเซาะแทน และเรื่องของทัศนียภาพ เพราะฉะนั้นแนวทางแก้ไข เบื้องต้น ชาวบ้านเองทราบดีว่ามีหลายหน่วยงานลงไปในพื้นที่ ไม่ใช่ว่าไม่มีใครไม่เหลียวแล การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จะมีการนำไม้วางกั้นคลื่นพร้อมทั้งทรายมาเติมเต็มลงไป จะได้ช่วยเติมทรายในจุดนั้น คิดว่าตรงนี้น่าจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง" นายศิริพัฒกล่าว

นายศิริพัฒกล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องของกรมโยธาฯ ตนก็ได้กำชับแล้ว อย่างไรก็ตาม เป็นความเห็นเบื้องต้นของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ขอให้รีบทำหนังสือแจ้งไปยังกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้ตอบมาชัดเจน ว่าจะออกแบบกันอย่างไรดี คิดร่วมกัน ขอเรียนว่า ทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ อบต. ปภ. และโยธาธิการและผังเมือง รวมทั้ง สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 7 ได้ร่วมดำเนินการและประชาชนทราบดีว่ามีการช่วยกันแก้ปัญหา

ที่มา : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1496031527#