Admin 19 พ.ค. 2560

เจ้าท่าชลบุรี แจงชาวบ้านศรีราชารุกทะเลให้ปฏิบัติตามกฎหมาย

560000005277601

เจ้าท่าชลบุรี ชี้แจงและทำความเข้าใจต่อชาวบ้าน ต.ศรีราชา กว่า 300 หลังคาเรือน ที่บุกรุกทะเล ให้มาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง ตาม พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย ฉบับที่ 17 พ.ศ.2560 ภายใน 22 มิ.ย.นี้ หากพ้นกำหนดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดต่อไป

วันนี้ (19 พ.ค.) นายธานี รัตนานนท์ นายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา ,พร้อมด้วย นายปรีชา เรืองอร่าม นายกยกเทศมนตรีเมืองศรีราชา นายจิร พักกะพาก รองนายกเทศมนตรีเมืองศรีราชา นายสุริยา กิตติมณฑล หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำ ที่ 6 สาขาชลบุรี และนายสุรนาท อ่อนสอาด นักวิชาการขนส่งปฏิบัติการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาชลบุรี ร่วมชี้แจงชาวบ้านที่มาร่วมรับฟังกว่า 300 คน ที่ศาลาประชาคมอำเภอศรีราชา

นายสุริยา กิตติมณฑล หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำ ที่ 6 สาขาชลบุรี กรมเจ้าท่า กล่าวว่า ในวันนี้ กรมเจ้าท่าได้มาชี้แจง และทำความเข้าใจต่อชาวบ้านในพื้นที่ ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กว่า 300 หลังคาเรือน ที่มีบ้านรุกล้ำในทะเล เพื่อให้ทราบแนวทางการปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย ฉบับที่ 17 พ.ศ.2560 ควบคุมสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำที่ไม่เคยได้รับอนุญาต และปลูกสร้างไม่เป็นตามรูปแบบที่ได้รับอนุญาต มีผลตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป

โดยเจ้าของหรือผู้ครอบครองสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ ตองแจ้งต่อกรมเจ้าท่า ตามแบบที่กรมเจ้าท่ากำหนด เช่น บ้านหลังดังกล่าวมีขนาดกว้าง และยาวเท่าไร ลักษณะเป็นแบบไหน โดยให้ดำเนินการภายในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ หลังจากนั้น กรมเจ้าท่าจะแจ้งให้ทราบว่าออกใบอนุญาตให้ได้ รือให้ทำการรื้อถอนภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับแบบการแจ้ง ส่วนที่ได้รับอนุญาตเจ้าของจะต้องเสียค่าตอบแทนท้องถิ่นในราคาตารางเมตรละ 100 บาทต่อปี

นายสุริยา กล่าวต่อไปว่า สำหรับพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวมีสาระสำคัญ คือ มีเจตนารมณ์เพื่อควบคุมการปลูกสร้างอาคาร หรือสิ่งอื่นใดลงไปในแม่น้ำ ลำคลอง ทะเล ชายหาดสาธารณประโยชน์ เพื่อประโยชน์ในการรักษาลำน้ำ และควบคุมให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

สำหรับในช่วงนี้ ห้ามเจ้าของ หรือผู้ครอบครองดำเนินการซ่อมแซม ต่อเติมอาคารบ้านพักอย่างเด็ดขาด ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ทางรัฐบาลจะนิรโทษกรรมให้แก่ผู้ที่บุกรุกพื้นที่นั้น ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องเอกสารหลักฐาน ซึ่งหากมีนิรโทษกรรมจริงจะต้องมีการประชุมหารือกันอีกครั้ง เพื่อกำหนดรูปแบบการนิรโทษกรรมแบบไหนอย่างไรต่อไป

ด้าน นายสุรนาท อ่อนสอาด นักวิชาการขนส่งปฏิบัติการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาชลบุรี กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดลงไปในทะเล ไม่ไปดำเนินการภายในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ จะถูกดำเนินการโดยให้ทำการรื้อถอน หรือแก้ไขสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำนั้นให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี แต่ไม่น้อยกว่า 30 วัน หากมีการดำเนินคดีจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับคำนวณเป็นตารางเมตรของพื้นที่ที่ล่วงล้ำลำน้ำ ในอัตราตารางเมตรละไม่น้อยกว่า 1,000 บาท แต่ไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ จะต้องถูกปรับเป็นรายวันวันละไม่เกินตารางเมตรละ 20,000 บาท หากไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ให้ทำการรื้อถอน หรือแก้ไขจนกว่าจะมีการปฏิบัติตามคำสั่งแล้วเสร็จ

นายจตุรงค์ ศักดิ์เจริญ ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนล่วงล้ำในทะเล กล่าวว่า ในวันนี้มารับฟังคำชี้แจงจากกรมเจ้าท่า เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยขณะนี้เตรียมยื่นเอกสารหลักฐานให้กรมเจ้าท่า เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป เพราะที่ผ่านมา ชาวบ้านไม่ทราบขั้นตอนในการดำเนินการ จึงมาฟังคำชี้แจงในครั้งนี้ และเตรียมไปดำเนินการทันที เพื่อไม่ให้มีปัญหาอุปสรรคในภายหลัง

560000005277602 560000005277603 560000005277604

ที่มา : https://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000050883