Admin
16 ส.ค. 2566
เต่าทะเลเหยื่อความมักง่าย ติดคราบน้ำมันแล้วกว่า 15 ตัว
ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ยังไม่หมด เต่าทะเลติดคราบน้ำมัน เหยื่อความมักง่ายของเรือที่ลักลอบปล่อยน้ำมันลงทะเล จนถูกคลื่นซัดเกยตื้นตามหาดต่างๆ แล้วกว่า 15 ตัว ตาย 1 ตัว
สำหรับปัญหาคราบน้ำมันถูกคลื่นซัดติดชายหาดต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่คืนวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา และขณะนี้ล่วงเลยมากว่า 10 วัน พบว่ายังมีคราบน้ำมันลอยเข้ามาติดชายหาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขยายพื้นที่ไปจังหวัดใกล้เคียง เช่น จ.กระบี่แล้ว อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ระดมกำลังในการจัดเก็บคราบน้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเก็บได้จำนวนมากเพื่อนำไปทำลายทิ้ง
ปัญหาคราบน้ำมันที่ลอยเข้ามาติดบริเวณชายหาดไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะชายหาดเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเล โดยเฉพาะเต่าทะเล ซึ่งเป็นสัตว์ที่จะลอยตัวขึ้นมาผิวน้ำ จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ระหว่างวันที่ 4-9 สิงหาคม 2566 ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามันตอนบนได้รับแจ้งพบเต่าทะเลที่ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันจำนวนทั้งหมด 14 ตัว เป็นเต่าทะเลมีชีวิตจำนวน 13 ตัว ได้แก่ เต่าตนุ 6 ตัว เต่าหญ้า 7 ตัว และเต่ากระ 1 ตัว
ลักษณะเต่าแต่ละตัวที่พบนั้นจะมีลักษณะคล้ายกัน คือ คราบน้ำมันปกคลุมทั้งร่างกาย และช่องปาก มีสภาพอ่อนแรง ไม่สามารถว่ายน้ำได้ จนถูกคลื่นซัดเข้ามาติดชายหาด หลังได้รับมอบมาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดร่างกาย และช่องปาก เพื่อเอาคราบน้ำมันออกให้หมด จากนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจร่างกายและฉายภาพรังสี เพื่อประเมินความผิดปกติของอวัยวะภายใน สังเกตการกินอาหารและการขับถ่าย และให้ยารักษาเบื้องต้น นอกจากนี้ยังพบเป็นซากเต่า 1 ตัวด้วย ซึ่งสภาพถูกปกคลุมด้วยคราบน้ำมันเช่นกัน
และล่าสุด วานนี้ (13 ส.ค.) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ได้รับการประสานจากชาวบ้านว่าพบลูกเต่าอีกจำนวน 1 ตัว เป็นชนิดเต่าหญ้า อายุประมาณ 2 เดือน บริเวณลำตัวและช่องปากพบคราบน้ำมัน บริเวณชายหาดหน้า รร.เดวา เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้เข้าทำการช่วยเหลือโดยการทำความสะอาดเอาคราบน้ำมันออก หลังจากนั้นได้ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ให้เข้ามารับลูกเต่าตัวดังกล่าวไปรักษาและดูแลต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับปัญหาเต่าทะเลติดคราบน้ำมันเชื่อว่าจะยังมีเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากขณะนี้ยังมีคราบน้ำมันที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาติดชายหาดอีก แม้ว่าปริมาณจะเริ่มลดลงก็ตาม
ที่มา: MGR Online