Admin
2 ก.พ. 2566
อวดโฉมโชว์ตัว
ที่บริเวณท่าเรือบ้านเกาะมุก หมู่ที่ 2 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง พบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวบ้านจำนวนมากกำลังบันทึกภาพพะยูน เพศผู้ ความยาวประมาณ 2.30 เมตร น้ำหนักตัวประมาณ 200-220 กิโลกรัม กำลังกินหญ้าทะเลอยู่บริเวณท่าเรือ โดยจะขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำทุก ๆ 2-3 นาที พร้อมพลิกตัวโชว์หน้าท้องสีขาวอวดนักท่องเที่ยวให้ได้ฮือฮาเป็นระยะ โดยตั้งแต่ช่วงปีใหม่ 2566 เป็นต้นมา ชาวเกาะมุกและนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวเกาะมุก มักจะพบพะยูน 1-3 ตัว ว่ายเข้ามากินหญ้าชะเงา ซึ่งเป็นหญ้าทะเลชนิดหนึ่งบริเวณท่าเรือเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.00 น. - 11.30 น. และในช่วงเย็นเวลาประมาณ 15.00 น. - 18.00 น. หรือช่วงเวลาน้ำขึ้น
ทำให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมพะยูนตัวเป็น ๆ อย่างใกล้ชิดเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน โดยพบว่าที่ท่าเรือบ้านเกาะมุกยังคงมีหญ้าทะเลอย่างอุดมสมบูรณ์ จึงดึงดูดให้พะยูนเข้ามากินหญ้าทะเลทุกวัน แม้จะมีเรือหางยาวแล่นผ่าน ทำให้พะยูนว่ายหนี แต่สักพักก็จะกลับเข้ามาใหม่ เพื่อกินหญ้าทะเลพร้อมหงายท้องโชว์ตัวใต้น้ำทะเลใส แสดงให้เห็นถึงความร่าเริง สบายใจ และมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวและชาวบ้านพบเจอได้ทุกวัน จนกลายเป็นอันซีนแห่งใหม่ที่นักท่องเที่ยวมีการแชร์ต่อ ๆ กันในโลกโชเชียล และทำให้มีนักท่องเที่ยวที่อยากเห็นพะยูนตัวเป็น ๆ อย่างใกล้ชิด พากันเดินทางไปที่เกาะมุกมากขึ้น
ไม่เว้นแม้แต่นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษคนนี้ที่เธอบอกว่า ได้เดินทางตามหาพะยูนมาหลายปีแล้ว เคยมาที่ จ. ตรัง เพื่อหาพะยูนเมื่อปีที่แล้ว แต่หาไม่เจอก็รู้สึกผิดหวัง แต่วันนี้จะไม่ได้เจอใกล้ ๆ แต่ยังรู้สึกโชคดี และตัวใหญ่กว่าที่คิดไว้ เห็นแล้วรู้สึกดีใจ และอยากจะว่ายน้ำไปเจอใกล้ ๆ
สำหรับพะยูนเป็นสัตว์ป่าสงวน ตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 เป็นสัตว์ป่าสงวนชนิดเดียวที่เป็นสัตว์น้ำเลี้ยงลูกด้วยนม อายุยืนประมาณ 70-80 ปี ซึ่ง จ. ตรัง ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของพะยูน เพราะจากการบินสำรวจของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชในทุก ๆ ปี พบว่า มีพะยูนอาศัยอยู่มากที่สุดที่เกาะลิบงและเกาะมุก อ.กันตัง จ.ตรัง โดยที่เกาะมุก มีพะยูนเข้ามากินหญ้าทะเลใกล้กับชาวบ้านมากที่สุด ทำให้เกาะมุกมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ชาวบ้านมีรายได้มากขึ้น หลังซบเซาจากพิษโควิด 19 มานาน

อย่างไรก็ตาม ยังพบว่า ไม่มีการจัดระเบียบเรือหางยาวจากบุคคลภายนอก ที่วิ่งรับ-ส่งผู้โดยสาร เรือบางลำยังวิ่งผ่านแหล่งหญ้าทะเลที่พะยูนกำลังหากิน ทำให้พะยูนตื่นตกใจ จนนักท่องเที่ยวต้องช่วยกันห้าม หวั่นว่าใบพัดเรือจะทำลายพะยูนโดยไม่ตั้งใจ นักท่องเที่ยวจึงวอนชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตา จัดระเบียบการรับส่งผู้โดยสารให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่พะยูนกำลังกินหญ้าทะเล เพื่อให้พะยูนไม่เกิดความหวาดระแวง และเข้ามากินหญ้าทะเลเพิ่มมากขึ้น
ที่มา: MCOT.net