Admin 6 ต.ค. 2565

ตรวจสอบสร้างสะพานไม้รุกล้ำทะเลอ่าวเลน จ.กระบี่ หลังชาวบ้านร้องนายทุนสร้าง ผู้ใหญ่บ้านแจงไม่เกี่ยวนายทุน ชาวบ้านสร้างกันเอง

เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสะพานไม้ สร้างรุกทะเลอ่าวท่าเลน จ.กระบี่ หลังชาวบ้านร้องเรียนนายทุนสร้าง ด้านผู้ใหญ่บ้านออกโรงแจง ชาวบ้านสร้างกันเองใช้ขึ้นลงเรือและรองรับท่องเที่ยว ไม่เกี่ยวนายทุน ชาวบ้านร้องขอสะพานไปแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการเหลียวแล

7.1

วันนี้ (3 ต.ค.) นายสมาน ชายเขาทอง ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบสะพานไม้ ขนาดกว้าง ประมาณ 1 เมตร ยาวกว่า 900 เมตร ที่สร้างยื่นลงไปในทะเลบริเวณอ่าวท่าเลน หลังถูกเจ้าหน้าที่ป่าชายเลนกระบี่ สนธิกำลังเจ้าท่ากระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ หลังจากมีชาวบ้านร้องเรียนว่าได้มีนายทุนก่อสร้างสะพานดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต

นายสมาน กล่าวว่า สะพานดังกล่าวนี้ชาวบ้านได้ช่วยกันลงเงินลงแรงก่อสร้างมานานกว่า 4 เดือน แต่หลังจากที่สร้างใกล้แล้วเสร็จ มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบว่ามีการก่อสร้างถูกต้องหรือไม่ มีการขออนุญาตจากหน่วยงานใดบ้าง ซึ่งยอมรับว่า สะพานดังกล่าวสร้างโดยไม่ได้ขออนุญาต แต่เป็นความต้องการของชาวบ้านจริงๆ ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันสร้างขึ้น จนถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและสั่งให้หยุดสร้างชั่วคราวจนกว่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้น

"ที่ผ่านมาชาวบ้านได้แจ้งความประสงค์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้วว่า ชาวบ้านต้องการสะพานเพื่อใช้ในการขึ้นลงเพื่อออกทำประมง และรองรับการท่องเที่ยว แต่ไม่มีหน่วยงานมดเหลียวแล ชาวบ้านจึงได้ลงมือทำกันเอง จนถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและสั่งระงับการก่อสร้าง" นายสมาน กล่าวและว่า

ในช่วงบ่ายของวันนี้ ตนจะเดินทางไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติมแก่เจ้าหน้าที่ในฐานะผู้ใหญ่บ้าน ขอรับรองว่าสะพานดังกล่าวชาวบ้านสร้างเอง ไม่ใช่เป็นของนายทุนตามที่มีการร้องเรียน ขณะที่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ป่าชายเลน กระบี่ ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบข้อร้องเรียนว่า มีนายทุนก่อสร้างสะพานรุกล้ำลำน้ำ ยื่นลงไปในทะเล บริเวณ ม.2 อ่าวท่าเลน บ้านเขาทอง ต.เขาทอง อ.เมือง จ.กระบี่ โดยไม่ได้รับอนุญาต เบื้องต้นพบว่ามีการก่อสร้างสะพานซึ่งทำด้วยไม้ยื่นลงไปในทะเล ยาวประมาณ 900 เมตร กว้างประมาณ 1 เมตร จึงได้ทำบันทึกและตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ได้มีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ ซึ่งจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์