Admin
24 มี.ค. 2560
วิกฤตจริง! ค่ามลพิษทางอากาศเมืองลำปางเริ่มวิกฤต ไฟป่าลามหนัก
มลพิษทางอากาศลำปางเริ่มวิกฤต ค่า PM10 ทะลุเกือบ 300 ไมโครกรัม ขณะที่ไฟป่ากระจายทั่วจังหวัด ล่าสุดกองทัพภาคที่ 3 สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์มาดับไฟป่าที่กำลังลุกลามหนักเพิ่มแล้ว
ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำ 3 ศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง ตำบลพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 ของกองทัพภาคที่ 3 นักบินช่างเครื่อง และถังน้ำชนิดแขวนใต้ท้องเครื่องขนาด 400 ลิตร ได้บินมาตักน้ำในอ่างเพื่อบินไปทิ้งน้ำดับไฟป่าที่เกิดขึ้นตามแนวสันเขาหลังวัดม่อนพระยาแช่ เขตวนอุทยานม่อนพระยาแช่ ตำบลพิชัย รวมทั้งแนวสันเขาดอยพระบาทและสวนรุกขชาติพระบาท ที่กำลังลุกลามอย่างหนักอีกครั้งในฝั่งเขตอำเภอเมืองลำปาง โดยได้ลุกไหม้มานานติดต่อกัน 3 วันแล้ว ผืนป่าเสียหายกว่า 500 ไร่ กินระยะทางหลายกิโลเมตร
ซึ่งในการบินทิ้งน้ำดับไฟป่าครั้งนี้ ทางนักบินได้ตักน้ำบินไปทิ้งน้ำในจุดที่เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเข้าไปไม่ถึง แต่กำลังภาคพื้นดินจะทำแนวกันไฟรอไว้ด้านล่าง ส่วนจุดที่เข้าไปถึงก็จะดับไฟที่ยังหลงเหลือให้สนิทเพื่อไม่ให้กลับมาปะทุลุกไหม้อีกครั้ง
นอกจากนี้ ไฟป่าที่เกิดขึ้นยังขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ ลุกลามอีกไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรจะถึงด้านหลังศูนย์ราชการจังหวัดลำปาง สำหรับเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ยังส่งผลทำให้กลุ่มควันไฟเข้ามาปกคลุมพื้นที่เขตเมือง รวมทั้งอีกหลายพื้นที่ในจังหวัดลำปางจนเกิดปัญหามลพิษทางอากาศ
ล่าสุดปริมาณฝุ่นควันขนาดเล็ก หรือค่า PM10 ที่กำหนดไว้ไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินค่ามาตรฐานจากเครื่องตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษที่ติดตั้งในจังหวัดลำปางทั้ง 4 เครื่อง โดยค่าสูงสุดอยู่ที่ ตำบลบ้านดง อำเภอแม่เมาะ ที่ 270 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รองลงมาที่ตำบลพระบาท อำเภอเมืองลำปาง ที่ 205 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ที่ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ ที่ 170 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และที่ตำบลสบป้าด อำเภอแม่เมาะ 130 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าจังหวัดลำปางมีค่ามลพิษทางอากาศครอบคลุมทั้งจังหวัดและสูงสุดในประเทศไทยในขณะนี้
ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000030060