Admin 21 ก.ค. 2565

'ประมงหาดเขาปิหลาย-เอกชน' ถกได้ข้อสรุป ปมผลกระทบเขื่อนกันคลื่น

1

19 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีชาวประมงพื้นบ้านชุมชนเขาปิหลาย ที่บริเวณชายหาดเขาปิหลาย หมู่ 14 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ได้รับความเดือดร้อนในการจอดเรือหลบลมมรสุมในช่วงน้ำทะเลหนุนสูงและคลื่นลมแรงมานานร่วม 100 ปี กระทั่งมีนายทุนอ้างกรรมสิทธิ์ที่ดินทำโครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นแนวชายหาด ทำให้กลุ่มประมงพื้นบ้านไม่มีพื้นที่จอดเรือ ขณะมีคลื่นซัดฝั่งรุนแรงอีกทั้งน้ำทะเลหนุนเกิดการกัดเซาะชายฝั่ง ชาวเรือต้องนำเรือขึ้นเกยชายฝั่งเพื่อหลีกหนีคลื่นลมในทะเล สร้างความเสียหายแก่เรือและอุปกรณ์หาสัตว์น้ำ ทำให้กลุ่มประมงได้รวมกลุ่มจัดตั้งเป็นองค์กรประมงท้องถิ่นเขาปิหลาย ยื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอตะกั่วทุ่ง เรียกร้องให้มีการตรวจสอบและเปิดเวทีเจรจา

ล่าสุดนายพจน์ หรูวรนันท์ ปลัดจังหวัดพังงา พร้อมนายอำเภอตะกั่วทุ่ง เจ้าท่าฯพังงา สทช.6 ที่ดินอำเภอตะกั่วทุ่ง อบต.โคกกลอย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน และกลุ่มประมงพื้นบ้าน ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ที่ทำการ อบต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา โดยมีการเจรจาแก้ปัญหาดังกล่าวจนเป็นที่น่าพอใจโดยสรุปว่าให้นายอำเภอตะกั่วทุ่งเปิดเวทีกลุ่มย่อย สอบถามปัญหาและข้อเรียกร้องของชาวประมง จากนั้นจะนัดฝ่ายเจ้าของที่ดินเข้าเจรจาอีกครั้ง โดยทางบริษัทเอกชนแจ้งว่าก่อนหน้านี้ได้เสนอให้ทางกลุ่มประมงพื้นบ้านในเรื่องการจอดเรือเพื่อช่วยแก้ปัญหาไปแล้ว แต่ทางกลุ่มประมงปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว

นายพล ศรีรัฐ ประธานองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น (อนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ) ชาวประมงพื้นบ้านที่อาศัยในบริเวณดังกล่าว ทราบว่า ก่อนหน้านี้ชาวประมงได้พูดคุยนอกรอบกับทางตัวแทนผู้ถือกรรมสิทธ์ที่ดิน แต่ไม่เป็นผล จึงยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอตะกั่วทุ่ง โดยมีข้อเรียกร้องให้ภาครัฐดำเนินการตรวจสอบ แนวเขตกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าว อีกเรื่อง คือ ทาง อบต.โคกกลอย อนุญาตให้มีการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นได้อย่างไรมีการศึกษาผลกระทบหรือไม่

ด้านตัวแทนบริษัทเอกชน กล่าวว่า ทางบริษัทฯซึ่งถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย เห็นว่ามีน้ำทะเลหนุนสูงคลื่นซัดสร้างความเสียหายจนเริ่มเข้าแนวเขตที่ดิน จึงต้องทำการก่อสร้างแนวกันคลื่นกัดเซาะตลอดแนวชายฝั่งซึ่งอยู่ในพื้นที่กรรมสิทธิ์และตรงตามกฎหมายกำหนดไว้ ส่วนการแก้ปัญหาให้ชาวประมงนั้น ทางบริษัทฯเคยเสนอที่จอดเรือ รวมถึงอุปกรณ์การลากจูงเรือให้ทางกลุ่มประมงแล้ว แต่ถูกปฏิเสธ กระทั่งการประชุมเจรจาครั้งนี้ทางบริษัทพร้อมรับฟังข้อเสนอเพื่อได้อยู่ร่วมกันได้ ซึ่งทางบริษัทฯมีความจำเป็นสร้างแนวกันคลื่นเพื่อความชัดเจนในการเสนอให้นักลงทุนต่างชาติได้พิจารณาลงทุนการท่องเที่ยวในพื้นที่ พร้อมเปิดให้ชาวบ้านในพื้นที่มีการสร้างงานและรายได้เข้า

ขณะที่นายพจน์ หรูวรนันท์ ปลัดจังหวัดพังงา กล่าวว่า ผลสรุปการประชุมครั้งนี้นับว่าเป็นผลดีทั้งทางบริษัทและกลุ่มประมงพื้นบ้าน โดยจะมีการประชุมกลุ่มเล็กทางนายอำเภอตะกั่วทุ่งเป็นประธานหารือความต้องการเพื่อเป็นข้อเสนอจากชาวประมงให้แก่ทางบริษัทและร่วมกันหาทางออก ส่วนภาครัฐเบื้องต้นไม่พบว่าการก่อสร้างแนวกันคลื่นของทางบริษัทฯจะขัดกับกฎหมายด้านต่างๆ

ที่มา: แนวหน้า