Admin
15 มี.ค. 2560
ตรวจรีสอร์ทหรูริมทะเลตรัง พบไม่มีใบอนุญาตประกอบการที่พัก
เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายนำกำลังเข้าตรวจสอบรีสอร์ทและร้านอาหารหรูบนเนินเขาริมทะตรัง หลังชาวบ้านร้องเรียน เบื้องต้นพบไม่ได้ขออนุญาตประกอบการที่พัก
เมื่อวันที่ 15 มี.ค. เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ร่วมกับทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองจังหวัดตรัง นำกำลัง เข้าทำการตรวจสอบรีสอร์ท และร้านอาหารหรู แห่งหนึ่งที่ก่อสร้างบนเนินเขาสูงริมทะเล บ้านหาดยาว - เจ้าไหม หมู่ 6 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามสามารถมองเห็นภูเขาและท้องทะเลอันดามันได้ในระยะไกลและสวยงาม อยู่ในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม กับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าไม่มีการขออนุญาตประกอบกิจการ
จากการตรวจสอบพบว่ารีสอร์ทดังกล่าวมีทั้งหมด 8 ห้อง ทุกห้องด้านหลังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงาม มีสระว่ายน้ำ จุดชมวิว ร้านอาหาร โดยมีนายสิทธิโชค ลีลาพันธิสิทธิ อายุ 50 ปี รับเป็นเจ้าของระบุว่าเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา โดยได้นำเอกสารต่างๆการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร เอกสารสิทธิ์ที่ดินเนื้อที่รวมประมาณ 10 ไร่ มาแสดง แต่ยอมรับยังไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการรีสอร์ท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ให้เจ้าของนำชี้แนวเขตเพื่อจับพิกัดด้วยจีพีเอส แต่ทางเจ้าของไม่สามารถชี้รับรองแนวเขตที่ชัดเจนของตัวเองได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอเอกสารหลักฐานการถือครองที่ดิน นำไปตรวจสอบ ให้ชัดเจนต่อไป
นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า จังหวัดตรัง ให้เข้ามาตรวจสอบการถือครองที่ดินว่าได้มาถูกต้องหรือไม่ มีการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ประกอบกิจการโรงแรมห้องพัก รวมทั้งว่ามีการบุกรุกพื้นที่หรือไม่ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นปัญหาทับซ้อนกันเองระหว่างเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมกับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง
ทั้งนี้ ทราบว่าที่ดินทั้งหมดดังกล่าวทางเจ้าของเดิม มีการขอออกโฉนดที่ดิน เมื่อปี 2517 และอีกแปลงขอออก น.ส.3 ก เมื่อปี 2528 ซึ่งการขอดังกล่าวพัฒนามาจากใบจองที่ดินที่ทางกรมที่ดินออกให้ แต่การครอบครองทำประโยชน์จริงจะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยหลังจากนี้จะประสานขอเจ้าหน้าที่ที่ดินมาทำการเดินสำรวจรังวัดใหม่ต่อไป เบื้องต้นเจ้าของไม่สามารถชี้รับรองแนวเขตได้ และไม่มีใบประกอบกิจการโรงแรม จึงขอเอกสารไปตรวจสอบให้แน่ชัด
ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/745263