Admin 13 มี.ค. 2560

ห่วงทะเลวิกฤตขุดลอกคลองเอื้อธุรกิจเรือเฟอรรี่

ferry

ชาวประมงเรือเล็กบ้านหัวดอน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่วงระบบนิเวศในทะเล หลังกรมเจ้าท่านำเรือมาขุดลอกปากคลองท่าเทียบเรือบ้านหัวดอน เอื้อเรือเฟอรรี่ข้ามอ่าวไทยพัทยา-หัวหิน และยังเอาดินโคลนจากการขุดลอกคลองไปทิ้งในทะเล ชาวประมงหวั่นกระทบระบบนิเวศของสัตว์น้ำ

นายพิษณุ กล้าขาย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และกลุ่มชาวประมงเรือเล็กบ้านหัวดอน หมู่บ้านเขาตะเกียบ อำเภอหัวหิน ได้เข้าร้องเรียนสื่อมวลชนให้มีการตรวจสอบการขุดลอกร่องน้ำ บริเวณปากคลองบ้านหัวดอน เขาตะเกียบ ซึ่งปัจจุบันกรมเจ้าท่าได้ปรับปรุงและสร้างเป็นท่าเทียบเเรือเฟอร์รี่ข้ามอ่าว เส้นทางหัวหิน-พัทยา

เดิมเรือประมงพื้นบ้าน หรือกลุ่มเรือเล็กของชาวบ้านกว่า 100 ลำ จะอาศัยจอดเทียบท่าด้านในคลองเขาตะเกียบ แต่ปัจจุบันกรมเจ้าท่า ได้นำเรือโป๊ะบรรทุกแบ๊คโฮ ของผู้รับเหมามาบรรทุกดิน (เรือบาส) มาทำการขุดลอกร่องน้ำบริเวณท้าเทียบเรือให้มีความลึกมากขึ้น โดยเอื้อประโยชน์กับเรือเฟอรรี่

โดยตลอดระยะ 3 วันที่ผ่านมา ชาวประมงกลุ่มเรือเล็กบ้านหัวดอน พบว่ามีการขุดตะกอนดินโคลน ใส่ลงเรือบาสของกรมเจ้าท่า และของผู้รับเหมา แล่นนำไปปล่อยทิ้งในทะเล ห่างชายฝั่งประมาณ 2 ไมล์ทะเลหรือประมาณ 3.6 กิโลเมตร

คุณสุเทพ ชูกำลัง ประธานกลุ่มประมงเรือเล็กบ้านหัวดอน กังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทะเล และเกิดความเสียหายต่อแหล่งหากินของสัตว์น้ำ รวมทั้งบริเวณชายฝั่งของอำเภอหัวหิน ซึ่งมีการวางปะการังเทียมเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล โดยเฉพาะการนำดินโคลนมาทิ้งในทะเล ทำให้เกิดน้ำขุ่น มีกลิ่นเหม็น ซึ่งส่งผลเสียหายต่อการทำอาชีพประมงชายฝั่ง และในอนาคต ตะกอนดินที่นำมาทิ้งเหล่านี้จะถูกคลื่นลมซัดเข้าชายหาดหัวดอน ชายหาดเขาตะเกียบ และชายหาดหัวหิน จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะชายหาดจะเป็นสีดำ

ดังนั้นจึงได้เรียกร้อง อยากให้หน่วยงานอย่างกรมเจ้าท่าให้ ทบทวนการดำเนินการดังกล่าว และขอให้กระทรวงทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จัดส่งนักวิชาการเข้ามาตรวจสอบว่า การดำเนินการในลักษณ์เช่นนี้ของกรมเจ้าท่า จะส่งผลกระทบต่อ พื้นที่ทั้งแนวปะการังเทียม รวมถึงแหล่งที่ชาวประมงพื้นบ้านออกวางอวนกุ้ง ปู และปลา หรือไม่

คุณสุเทพ บอกว่า จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าประจำเรือ ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า เป็นโครงการของรัฐบาลที่ต้องการขุดลอกร่องน้ำให้ชาวประมง และ เพื่อให้เรือเฟอรรี่ สามารถบริหารได้ โดยจะใช้ระยะเวลาขุดลอกจำนวน 48 วัน ซึ่วในแต่ละวัน จะมีการบรรทุกดินที่ขุดลอกมาทิ้งหลายเที่ยว เที่ยวละกว่า 1,000 คิว ตลอดระยะเวลา 48 วัน ถือเป็นปริมาณมหาศาล ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศใต้น้ำอย่างแน่นอน

และหากยังมีการทิ้งดินจนน้ำขุ่นเช่นนี้ ทุกคนต่างมีความเป็นห่วงระบบนิเวศไต้ท้องทะเลเป็นอย่างมาก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง และตรวจสอบและขอให้เปิดเผยข้อมูลโครงการขุดรอกล่องน้ำดังกล่าวด้วย

ที่มา : http://www.now26.tv/view/101482