Admin
14 ต.ค. 2564
กร่างเต็มอ่าว! กลุ่มประมงเถื่อนขับเรือล้อม จนท.ขัดขวางการยึดลอบไอ้โง่
ประมงเถื่อนวางลอบไอ้โง่กลางอ่าวปากพนัง จนท.บุกยึดได้นับพันลูกมูลค่ากว่า 1 ล้านบ้าน สร้างความไม่พอใจขับเรือล้อมเจ้าหน้าที่ขัดขวางการยึด ด้านกำนัน ผู้ใหญ่บ้านสุดทนขนชาวประมงถูกกฎหมายช่วยเจ้าหน้าที่ ก่อนกลุ่มประมงเถื่อนจะล่าถอยไป
วันนี้ (12 ต.ค.) น.อ.สมเกียรติ ทรงสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการ ศรชล.นครศรีธรรมราช ได้รายงานผู้บังคับบัญชาระดับสูงถึงเหตุการณ์กลุ่มเรือประมงเถื่อนประเภทใช้เครื่องมือผิดกฎหมายชนิดลอบพับ หรือลอบไอ้โง่ ซึ่งเป็นเครื่องทำลายล้างต้องห้ามนำมาใช้ทำประมงโดยเด็ดขาด ได้ร่วมกันนำเครื่องมือชนิดนี้มาทำประมงกว่า 1,000 ลูก โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย โดยเกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 11 ตุลาคม 2564 ขณะที่เจ้าหน้าที่ ศรชล.นครศรีธรรมราช นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช ตำรวจน้ำปากพนัง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้สนธิกำลังเข้าปฏิบัติการกวาดล้างเครื่องมือประมงผิดกฎหมายในพื้นที่ทะเลชายฝั่งเขต ต.แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช
โดยเจ้าหน้าที่พบการลักลอบวางเครื่องมือชนิดลอบไอ้โง่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเข้าปฏิบัติการตรวจยึดเก็บเป็นของกลางในการดำเนินคดี โดยได้กวาดเก็บเป็นระยะทางยาวกลายกิโลเมตร มีลอบไอ้โง่กว่า 1,000 ลูก ขณะที่ทำการตรวจยึดนั้น ปรากฏว่า มีกลุ่มประมงเถื่อนซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าของเครื่องมือผิดกฎหมายที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึด พยายามเข้าปิดล้อมขัดขวางก่อกวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพไว้ได้จำนวน 12 ลำ มีชาวประมงอยู่ภายในเรือซึ่งน่าเชื่อว่าเป็นเจ้าของลอบไอ้โง่ที่ถูกลักลอบทำประมงผิดกฎหมายประมาณ 24 คน พยายามแสดงท่าทีคุกคามและขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตาม ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ประสานกับ นายประยุทธ ฐานะวัฒนา กำนันตำบลแหลมตะลุมพุก พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านอีกหลายคนในพื้นที่ ได้ช่วยกันนำเรือประมงพร้อมชาวประมงที่ต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายออกมาอีกราว 40 คน เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดลอบพับ หรือลอบไอ้โง่ เพื่อแสดงให้กลุ่มประมงผิดกฎหมายเห็นว่า แม้แต่ชาวประมงด้วยกันในพื้นที่ได้แสดงเจตนาร่วมกันปฏิเสธการทำประมงผิดกฎหมาย ก่อนที่กลุ่มประมงลอบไอ้โง่จะล่าถอยไป
ส่วนลอบไอ้โง่ที่เจ้าหน้าที่ยึดได้นั้นมีมากกว่า 1,000 ลูก มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกตรวจยึดและนำเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปากพนัง ท้องที่ที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้ว
ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์