Admin 17 ก.พ. 2560

สั่งทุกจังหวัดสำรวจขยะทะเล "ชุมพร" นำร่องลดใช้ถุงพลาสติก

20-2-2560 14-19-31

นายวรรณ ชาตรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากกรณีพบแพขยะขนาดใหญ่ในทะเลอ่าวไทย เป็นขยะที่มาจากปัญหาน้ำท่วมจังหวัดภาคใต้เมื่อต้นเดือนมกราคมนั้น ขณะนี้อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดในภาคใต้ที่ประสบภัยน้ำท่วมเร่งสำรวจปริมาณขยะ พร้อมแยกประเภท โดยเฉพาะบริเวณใกล้แม่น้ำ ชายฝั่ง แหล่งท่องเที่ยว เกาะ ทะเล ว่ามีปริมาณขยะตกค้างที่น่าจะไหลลงสู่ทะเลปริมาณเท่าใด มีการสำรวจประมาณการขยะทะเลในท้องทะเลแต่ละจังหวัด และขยะทะเลที่ถูกซัดมาตกค้างบริเวณชายฝั่งและคำนวณสัดส่วนประเภทขยะที่พบภายในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้

"จากนั้นจะนำสื่อมวลชนติดตามประเมินสถานการณ์กรณีแพขยะที่บริเวณเกาะทะลุ ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ โดยเฉพาะขยะที่ถูกพัดขึ้นฝั่งบริเวณชายหาด และขยะที่อาจส่งผลกระทบกับแนวปะการังสมบูรณ์รอบเกาะ ทั้งนี้ ทช.มีแผนงานดำเนินการเกี่ยวกับการทบทวนคำสั่งกรณีเกาะไข่ จ.ชุมพร ให้เป็นพื้นที่นำร่องลดใช้ถุงพลาสติกและวัสดุพลาสติก ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)" นายวรรณกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ ทช.อยู่ระหว่างการศึกษาติดตามแหล่งที่มาของขยะทะเล เพื่อกำหนดมาตรการลดขยะทะเลอย่างจริงจัง ตามแผนแม่บทการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ พ.ศ.2559-2564 ของรัฐบาล เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยถูกจัดอยู่ในประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกลงทะเลเป็นอันดับ 6 ของโลก ที่มีขยะตกค้างไม่ได้รับการจัดเก็บอย่างถูกต้องบริเวณพื้นที่จังหวัดชายทะเลมากกว่า 5 ล้านตันต่อปี

พบว่าจะถูกชะและพัดพาลงสู่ทะเลประมาณร้อยละ 10 ของขยะที่ลงทะเล หรือประมาณ 500,000 ตันต่อปี สำหรับประเทศไทยมีขยะพลาสติกลงทะเลประมาณ 50,000 ตัน หรือประมาณ 750 ล้านชิ้น ส่งผลกระบทต่อระบบนิเวศในทะเล โดยเฉพาะผลกระทบต่อสัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ ทั้งโลมา วาฬ และเต่าทะเล ปัจจุบันมีอัตราการตายจากขยะทะเลมากถึงร้อยละ 10 และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น

ที่มา : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1487342524