Admin 15 ก.พ. 2560

ทช.เก็บขยะกลางทะเลเเล้วกว่า 5.5ตัน ผุดเเนวคิดเก็บเงินผู้ใช้ถุงพลาสติก

tc

ทช.เก็บขยะกลางทะเลแล้วกว่า 5.5 ตัน ผุดแนวคิดเก็บเงินผู้ใช้ถุงพลาสติก นำร่อง 3 จังหวัด สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายวิจารย์ สิมาฉายา ปลัด ทส. น.ส.สุทธิลักษณ์ ระวิวรรณ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และนายสากล ฐินะกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ร่วมแถลงข่าว ขยะทะเลและ การดำเนินการเก็บขยะทะเลบริเวณพื้นที่ จ.ชุมพรและประจวบคีรีขันธ์

นายวิจารย์กล่าวว่า จากการสำรวจโดยวิจัยมหาวิทยาลัยจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ปี 2010 จาก 192 ประเทศที่ติดชายฝั่งทะเล พบว่าประเทศไทยปล่อยขยะลงสู่มหาสมุทรมากเป็นอันดับที่ 6 ของโลก ทส.จึงต้องหาแนวทางเพื่อกำหนดมาตรการลดขยะทะเลให้ได้อย่างจริงจัง เพื่อให้เป็นไปตามแผนแม่บทการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของประเทศ

น.ส.สุทธิลักษณ์กล่าวว่า ประเทศไทยมีปริมาณขยะมูลฝอยรวม 26.85 ล้านตัน/ปี ร้อยละ 23 ของขยะทั้งหมด หรือประมาณ 6.22 ล้านตัน/ปี ตกค้างในพื้นที่และกำจัดไม่ถูกต้อง และในจำนวนนี้ประมาณร้อยละ 10 หรือ 5 แสนตัน/ปี จะถูกชะและพัดพาลงสู่ทะเล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขยะพลาสติก แต่ละปีจะมีขยะพลาสติกลงทะเลประมาณปีละ 5 หมื่นตัน หรือ 750 ล้านชิ้น ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในทะเลและสัตว์ทะเลหายาก โดยในปัจจุบันมีอัตราการตายที่มีสาเหตุจากขยะทะเลมากถึงร้อยละ 10 และยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีกด้วย โดยปี 2560 ทช.ได้ดำเนินการจัดทำแผนจัดการขยะทะเล ในพื้นที่นำร่องขึ้นใน 7 จังหวัด ได้แก่ ระยอง สมุทรสงคราม ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช พังงา และตรัง ในระบบนิเวศที่สำคัญ อาทิ ชายหาด ปากแม่น้ำ แนวปะการัง แหล่งอนุบาลหอยมือเสือ ป่าชายเลน และแหล่งหญ้าทะเล มีเป้าหมายในการลดปริมาณขยะไม่น้อยกว่า 500,000 ชิ้น นอกจากนี้จะจัดกิจกรรมเก็บขยะที่ตกค้างในระบบนิเวศที่สำคัญแบบมีส่วนร่วมขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 24 จังหวัด โดยทำงานแบบบูรณาการร่วมกับชุมชนชายฝั่ง ผู้ประกอบการ นักเรียน ผู้ประกอบการท่องเที่ยว อาสาสมัคร นักดำน้ำจิตอาสา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

อธิบดี ทช.กล่าวต่อว่า สำหรับกระแสข่าวที่มีการโพสต์ภาพขยะอยู่กลางทะเลที่เกิดจากอุทกภัยน้ำท่วมห่างจากชายฝั่ง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 12 กิโลเมตร โดย ทช.และทหารเรือได้ลงพื้นที่ดำเนินการเก็บกู้ขยะแล้ว 5.5 ตัน เป็นขยะพลาสติกมากกว่า 8 หมื่นชิ้น ซึ่งคาดว่ายังมีขยะที่หลงเหลืออีก 2-3 เท่า แต่เนื่องจากอากาศมีคลื่นลมแรงจึงทำให้ยากต่อการดำเนินการ ซึ่ง ทช.จะดำเนินการเก็บกู้ขยะที่เหลืออยู่ให้รวดเร็วที่สุด นอกจากนี้ ทช.จะทบทวนกฎหมาย พ.ร.บ.ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558 ตามมาตรา 17 โดยการเพิ่มคำสั่งห้ามใช้ถุงพลาสติกในพื้นที่ที่ ทช.ดูแล เช่น เกาะมันใน จ.ระยอง เกาะทะลุ เกาะเหลื่อม จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกาะไข่ จ.ชุมพร เกาะราชาใหญ่ เกาะไม้ท่อน และแหลมพันวา จ.ภูเก็ต

ขณะที่นายสากลกล่าวว่า การรณรงค์การงดใช้ถุงพลาสติกที่ผ่านมา ทส.ตั้งเป้ารณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติกให้ได้ 89 ล้านใบ สามารถลดการใช้ถุงพลาสติกได้เกินเป้าหมาย คือ สามารถลดการใช้ถุงพลาสติกลงได้ 166,775,853 ใบ

ที่มา : http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1487165686#