Admin 12 พ.ย. 2563

ประเทศญี่ปุ่นไฟเขียวเปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์โดนสึนามิถล่มเสียหายแห่งแรก

ญี่ปุ่นเตรียมเปิดเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เคยได้รับความเสียหายจากคลื่นสึนามิเมื่อ 9 ปีก่อนครั้งแรก หลังเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นยอมอนุมัติ

6

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานในวันที่ 11 พ.ย. 2563 ว่า ญี่ปุ่นเตรียมอนุมัติขั้นสุดท้ายให้เปิดเตาปฏิกรณ์ของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ‘โอนากาวะ’ ซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง และคลื่นยักษ์สึนามิถล่มเมื่อปี 2554 แล้ว หลังจากได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น

เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ โอนากาวะ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวไปทางเหนือราว 340 กม. ได้รับความเห็นชอบให้กลับมาเปิดอีกครั้งจากหน่วยงานตรวจสอบไปก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากผ่านเกณฑ์มาตรฐานความปลอดภัยใหม่ที่ออกหลังเหตุเตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟูกูชิมา ระเบิด

อย่างไรก็ตาม เตาปฏิกรณ์ โอนากาวะ เป็นเตาปฏิกรณ์ที่ได้รับความเสียหายจากสึนามิแห่งแรกของประเทศ ที่ได้รับการสนับสนุนจากทางการท้องถิ่นให้กลับมาเปิดอีกครั้ง โดยนายโยชิฮิโระ มุราอิ ผู้ว่าราชการจังหวัดมิยางิ เปลี่ยนใจกลับมาสนับสนุน ทั้งนี้ เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 9.1 เมื่อปี 2554 ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิซัดเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น สร้างความเสียหายต่อโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟูกูชิมา ไดอิจิ จนเตาปฏิกรณ์ระเบิด มีกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลเป็นวงกว้าง ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรังมาจนถึงตอนนี้ จุดให้เกิดกระแสความกังวล จนรัฐบาลต้องสั่งปิดเตาปฏิกรณ์ทั่วประเทศ แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลญี่ปุ่นพยายามผลักดันเรื่องการเปิดเตาปฏิกรณ์อีกครั้ง เนื่องจากพวกเขาจำเป็นต้องลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนให้ได้ตามเป้าหมายภายในเส้นตายปี 2593

“การปิดโรงงานนิวเคลียร์ ทำให้ญี่ปุ่นพึ่งพาการผลิตพลังงานความร้อนด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลมากขึ้นเรื่อยๆ” นายมุราอิกล่าว “ขณะที่มีความกังวลเรื่องการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เราอาจคาดหวังว่า การเพิ่มการใช้พลังงานทดแทนที่สะอาดและปลอดภัยอย่างฉับพลัน จะมาค้ำจุนความต้องการพลังงานตรงนั้นได้”

อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับการอนุมัติแล้ว ก็ยังต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่ง กว่าที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะกลับมาปฏิบัติการได้ โดยบริษัทพลังงานไฟฟ้าโตโฮคุ ผู้บริหารโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ โอนากาวะ ตั้งเป้าไว้ว่าจะเริ่มเปิดเตาปฏิกรณ์อีกครั้งในเดือนมีนาคม 2566 หรือวางมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมเสร็จแล้ว

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์