Admin 9 พ.ย. 2563

ยกย่องหนุ่มนักท่องเที่ยวช่วยโลมาเกยตื้นที่เกาะสุกร จนว่ายน้ำกลับสู่ท้องทะเลได้สำเร็จ

ชื่นชม! หนุ่มนักท่องเที่ยวชาว อ.สะเดา จ.สงขลา ตัดสินใจวิ่งลงไปช่วยชีวิต “โลมาสีชมพู” ขณะกำลังเกยตื้นอยู่ที่บริเวณชายหาดบนเกาะสุกร จนสามารถกลับคืนสู่ท้องทะเลอันดามันได้สำเร็จ

12

นายเสริมวิทย์ มุเส็มสะเดา หรือ "บังหนึ่ง" อายุ 36 ปี ชาว ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ได้โพสต์คลิปลงในเฟซบุ๊กส่วนตัววินาทีที่ตนเองกำลังวิ่งลงไปบริเวณชายหาด หน้าญาตา สปา แอนด์ รีสอร์ต ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 บ้านเสียมไหม บนเกาะสุกร หรือเกาะหมู อ.ปะเหลียน อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จ.ตรัง ขณะที่ได้เร่งทำการช่วยชีวิตของโลมาสีชมพู หรือโลมาปากขวดตัวหนึ่ง ขนาดยาวประมาณ 3 เมตร และหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ซึ่งกำลังเกยตื้นอยู่บริเวณหาดทราย และพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต เพื่อพาร่างกลับคืนสู่ท้องทะเลอันดามัน จนทำให้เนื้อตัวมีบาดแผลถลอกไปทั่ว เนื่องจากโดนเปลือกหอยบาดเข้า

จากนั้น บังหนึ่ง ได้พยายามใช้มือผลักดันร่างของโลมาตัวนี้ให้กลับคืนลงสู่ท้องทะเลอย่างทุลักทุเล เพราะมีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ และลงมือช่วยชีวิตเพียงคนเดียว จึงต้องใช้เวลาอยู่ประมาณ 5 นาที กว่าที่จะสามารถผลักร่างของโลมาตัวนี้ให้กลับลงสู่ท้องทะเลได้สำเร็จ โดยมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์มาตะโกนบอกให้กำลังใจ และถ่ายคลิปวินาทีดังกล่าวเอาไว้ ซึ่งหลังจากโลมาตัวดังกล่าวว่ายน้ำกลับรวมฝูง และปลอดภัยดีแล้ว มันก็ได้ตีหาง 2 ครั้ง เสมือนเป็นการขอบคุณผู้ที่ได้ทำการช่วยชีวิตให้รอดจากการเกยตื้นในครั้งนี้ และหลังจากมีการนำคลิปไปโพสต์ลงบนโซเชียล ปรากฏว่ามีผู้เข้ามาชื่นชมหนุ่มชาวสะเดารายนี้กันเป็นจำนวนมาก

นายเสริมวิทย์ มุเส็มสะเดา หรือ "บังหนึ่ง" กล่าวว่า ตนเองเดินทางมาเที่ยวเกาะสุกรกับกลุ่มเพื่อนๆ และก่อนหน้านั้นได้ถ่ายคลิปโลมาตัวนี้ขณะกำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนานอยู่กับฝูงรวม 3 ตัว โดยไม่นึกว่าพอถัดมาอีกวัน กลับต้องมาเจอโลมาตัวดังกล่าวเกยตื้นอยู่ ซึ่งจังหวะนั้นมีแค่ชาวประมงพื้นบ้านที่เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียว และกำลังอยู่ในอาการตกใจ ทำอะไรไม่ถูก ตนเองจึงตัดสินใจรีบลงไปช่วยโลมาตัวนี้ในทันที เพราะมันเกยตื้นมาพักหนึ่งแล้ว และท้ายสุดก็ช่วยชีวิตได้สำเร็จ จึงรู้สึกดีใจมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่มาเที่ยวทะเลตรัง และได้พบเห็นโลมาแบบตัวเป็นๆ ซึ่งที่บ้านเกิดของตัวเองที่ อ.สะเดา จ.สงขลา จะเคยพบเห็นสัตว์ที่อยู่ริมทะเล ก็แค่เพียงนกเงือกเท่านั้น

ที่มา:ผู้จัดการออนไลน์