News

ปัญหาบ่อขยะนครศรีฯ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมจี้ผู้บริหารตรวจสอบสารตกค้างในตัวคน

สสจ.นครศรีธรรมราชส่งทีมลงพื้นที่ปัญหาบ่อขยะต่อเนื่อง ฝั่งนักวิชาการสิ่งแวดล้อมเตรียมเข้าสืบสวนโรคในพื้นที่รอบบ่อขยะ จี้ตรวจสอบสารตกค้างสะสมในตัวคน และอาหาร ด้าน มทบ.41 ออกโรงเรียกทุกส่วนประชุมหาทางออก

วันที่ 31 ม.ค. 2560 ความคืบหน้าของการติดตามการแก้ไขปัญหาบ่อขยะของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนหลังจากช่วงน้ำท่วมได้มีปริมาณน้ำเน่าเสียระบายลงสู่พื้นที่ทางการเกษตร แหล่งหาปลาหลายตารางกิโลเมตร และยังไม่มีความชัดเจน และเป็นรูปธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง คงมีเพียงสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่เข้าตรวจสอบอาการป่วยของชาวบ้าน

นพ.บัญชา ค้าของ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า เจ้าหน้าที่ และนักวิชาการสิ่งแวดล้อม จากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อยู่ในระหว่างการเตรียมลงพื้นที่เพื่อสืบสวนติดตามอาการป่วยของประชาชน รวมทั้งติดตามเฝ้าระวังเก็บข้อมูลผลกระทบจากน้ำ และอากาศ โดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเราจะมุ่งไปยังสุขภาพของคนเป็นหลัก

ส่วนความเคลื่อนไหวของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ในฐานะผู้รับผิดชอบล่าสุดนั้นได้มีการเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง โดยได้เตรียมที่จะออกแบบคันดินใหม่ และเตรียมส่งหนังสือไปยัง กอ.รมน.นครศรีธรรมราช เพื่อขอสนับสนุนเครื่องจักรกลหนักเข้ามาปรับพื้นที่ และยกระดับคันดิน

อย่างไรก็ตาม นักวิชาการที่เกี่ยวข้องต่อการตรวจสอบพื้นที่นี้ได้ระบุเพิ่มเติมว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบทุกระดับควรต้องยอมรับได้แล้วว่า พื้นที่นี้เป็นภัยพิบัติทางมลพิษไปแล้ว และเกินกำลังขีดความสามารถการแก้ไขในระดับจังหวัด ไม่ใช่อ้างแค่ว่าปัญหานี้มีมานานแล้ว และเมื่อมีมานานมันสะท้อนให้เห็นว่า ไม่มีการแก้ไขจนปัญหาลุกลามใหญ่โต ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ได้แค่บิดเบือนไปวันๆ ทั้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย

สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากที่สุดมันยังไม่ถูกคิด และพูดถึงจากผู้เกี่ยวข้องที่มากไปกว่าการตรวจสอบทางกายภาพ ทั้งการสอบสวนโรค และการตรวจวิเคราะห์สารตกค้างปนเปื้อนในสภาพแวดล้อมที่กำลังตื่นกันตอนนี้ เวลานี้เร่งด่วนที่สุดขณะนี้คือ การตรวจเลือดของชาวบ้านที่อยู่กับมลพิษ ทั้งน้ำ และอากาศมาเป็นเวลานานเพื่อหาสารตกค้างในเลือด โดยเฉพาะกลุ่มโลหะหนักทั้งหลาย รวมทั้งวิเคราะห์ทางพิษวิทยา เช่นเดียวกับการตรวจตรวจสารตกค้างในพืชอาหารพื้นบ้าน และสัตว์น้ำที่ชาวบ้านใช้เป็นอาหารในพื้นที่

“น้ำเน่าไม่ได้มาแค่กลิ่น หรือสีเท่านั้น มันพาสารที่ปนเปื้อนมาด้วยทั้งประเภทสารเคมี และโลหะหนัก เชื่อว่าจะมีผลในการตรวจวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์อย่างมีนัยสำคัญ และจะเห็นปัญหานี้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น ไม่ใช่แค่ผิวเผินเช่นที่ผู้บริหารทำกันอยู่ในตอนนี้” นักวิชาการรายนี้ชี้ช่องในการตรวจสอบ

และล่าสุด ได้สร้างความดีใจ และมีความหวังให้แก่ชาวบ้านอีกครั้ง หลังจากที่ พล.ต.อาคม พงศ์พรหม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 ในฐานะผู้บัญชาการควบคุมมณฑลทหารบกที่ 41 ได้ออกหนังสือด่วนที่สุด เรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้อำนวยรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด ผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เข้าประชุมในเวลา 14.00 น.ของวันที่ 1 ก.พ.60 ซึ่งต่างมีความหวังว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้เร็วขึ้น เนื่องจากต่างไม่มั่นใจในการแก้ไขปัญหาระดับจังหวัด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แม้ขณะนี้ความเดือดร้อนของประชาชนจะถูกเห็นเป็นประจักษ์ แต่ยังคงไม่วายที่ผู้บริหารบางรายใช้รายการวิทยุในท้องถิ่นกล่าวทำนองว่า ข่าวที่เกี่ยวข้องต่อเทศบาลนครนครศรีธรรมราชในระยะนี้ เป็นการสร้างข่าวของฝ่ายตรงกันข้ามที่หวังทำลายชื่อเสียง ซึ่งไม่แปลกไปจากทุกครั้งที่มีประเด็นเกี่ยวข้องกับเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และไม่เคยที่จะตอบเป็นอย่างอื่น

โดยล่าสุด เช่นกรณีจระเข้หลุดออกมาจากสวนสัตว์ทุ่งท่าลาด ผู้บริหารรายเดียวกันระบุว่า จระเข้ยังอยู่ครบ เป็นเรื่องการเมืองฝ่ายตรงข้ามพยายามทำลายชื่อเสียง จนสร้างความเฮฮาต่อผู้ติดตาม เนื่องจากเห็นว่าจระเข้หลุดจากคอกเลี้ยงเพราะน้ำท่วม ไม่มีส่วนไหนที่จะเกี่ยวกับฝ่ายตรงข้ามของผู้บริหารรายนั้น และต่างเดาถูกว่าผู้บริหารจะกล่าวเช่นนี้ แม้ว่าจระเข้จะหลุดออกมาจริง และถูกจับได้จนเป็นข่าวโด่งดังก็ตาม และมาครั้งปัญหากองขยะในช่วงน้ำท่วม จึงออกมาในทำนองเดิมอีกครั้งหลายคนต่างเดาถูกอีกเช่นเคย

ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000010619