Admin 12 มิ.ย. 2563

ขีดเส้น 2 เดือน รื้อถอนสิ่งล่วงล้ำ "คอกหอย"

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เวลาผู้บุกรุกอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเวลา 2 เดือน รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง หลังเกิดเหตุใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าขับไล่ชาวประมงพื้นบ้าน ขณะที่ ศรชล.ประกาศจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ขณะที่ผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัวแล้ว

1

วันนี้ (11 มิ.ย.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวประมงพื้นบ้านหลายร้อยคนที่กำลังเก็บหอยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลอ่าวบ้านดอน ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ต้องเร่งขับเรือหนีเอาชีวิตรอด หลังจากนายสันติ นวลเสน ขับเจ็ตสกีใช้ปืนยิงขึ้นฟ้า ขับไล่ชาวประมงพื้นบ้าน เมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.) โดยอ้างว่าชาวประมงเข้าไปตักเก็บลูกหอยแครงในคอกที่เลี้ยงมา หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมนายสันติ ดำเนินคดีฐานความผิดพกพาอาวุธปืน และยิงปืนในที่สาธารณะไม่มีเหตุอันควร และญาติได้ประกันตัวในชั้นศาลแล้ว วงเงิน 30,000 บาท

ขณะที่ พล.ร.ท.สำเริง จันทร์โส ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 หรือ ศรชล., ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าหารือเพื่อบูรณาการใช้กฎหมายร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งชิงผลประโยชน์ในอ่าวบ้านดอน

แผนรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 ระยะ

ส่วนการหารือได้เพิ่มพนักงานอัยการจังหวัดมาเป็นคณะทำงานด้วย และให้เวลาผู้บุกรุกทำการรื้อถอนสิ่งล่วงล้ำลำน้ำเอง ภายใน 2 เดือน ตั้งแต่เดือน มิ.ย. - ส.ค.2563 ซึ่งทางจังหวัดจะทำประกาศแจ้งผู้บุกรุกทราบ โดยทำแผนรื้อ 3 ระยะ เริ่มตั้งแต่สร้างความเข้าใจผู้บุกรุกให้รื้อถอนด้วยตัวเองก่อน หากไม่รื้อถอนตามกำหนด จะดำเนินคดีตามกฎหมาย และหากรัฐดำเนินการรื้อถอนเองตามคำสั่งศาล ต้องมีการเรียกค่ารื้อถอนจากผู้บุกรุก ทั้งหมดจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2564 เพื่อไม่ให้มีสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำในอ่าวบ้านดอน และไม่มีเหตุการณ์รุนแรง พล.ร.ท.สำเริง เปิดเผยว่า ช่วงแรกจะนัดผู้ประกอบการ และตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านมาคุยก่อน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ เป็นการสะท้อนความรุนแรง ซึ่งทาง ศรชล.จะไม่ให้เกิดขึ้นอีก

กมธ.เกษตรฯ พร้อมแก้คอกหอย

คณะอนุกรรมาธิการในกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ ของวุฒิสภา เชิญผู้แทนกรมประมง ประมง จ.สุราษฎร์ธานี เข้าให้ข้อมูลถึงปัญหาความขัดแย้งคอกหอยอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานี โดยรองอธิบดีกรมประมง และประมง จ.สุราษฎร์ธานี ชี้แจงถึงปัญหาที่สะสม แม้ภาครัฐจะพยายามแก้ปัญหา และล่าสุดใช้กลไกผ่านคณะทำงานของ จ.สุราษฎร์ธานี และ ศรชล. กองทัพเรือ จากปัญหาที่ซับซ้อน ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องใช้เวลาในการแแก้ไข ขณะเดียวกัน กำหนดให้ผู้บุกรุกพื้นที่สาธารณะต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่มากถึง 1,000 หลัก ภายใน 60 วัน และจะใช้หลักรัฐศาสตร์นำกฎหมายแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง

5 (1)

นำปัญหาคอกหอยหารือ 15 มิ.ย.นี้

ส่วนนายลักษณ์ วจนานวัช รองประธานคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า จะนำข้อมูลปัญหาไปประชุมกับกรรมาธิการฯ วันที่ 15 มิ.ย.นี้ โดยจะดำเนินการใน 2 แนวทาง คือการติดตามการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด และหากแก้ไขไม่ได้จะใช้กลไกวุฒิสภา ด้วยการตั้งกระทู้ถามฝ่ายบริหารถึงแนวทางแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการทำประมง

นายลักษณ์ กล่าวอีกว่า พื้นที่จากเขตทะเลชายฝั่งออกทะเลไป 1,000 เมตร ต้องการให้เป็นพื้นที่สาธารณะโดยสมบูรณ์ ผ่านการบริหารจัดการให้ตรงตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย โดยมีพื้นที่ได้รับการขออนุญาตเกือบ 40,000 ไร่ จาก 400,000 ไร่ แต่ขณะนี้มีการรุกล้ำทำประมงเกินที่กำหนดไว้ 155,000 ไร่ โดยเป็นชาวประมงนอกพื้นที่ และนายทุนนอกและในพื้นที่เข้าไปเลี้ยงหอยในพื้นที่สาธารณะ

ให้ชาวประมงเก็บเกี่ยวให้หมดก่อน

นอกจากนี้ ยังเปิดให้ชาวประมงที่เลี้ยงหอยไว้ได้เก็บเกี่ยวให้หมดก่อนในฤดูกาลนี้ จากนั้นจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ตาม พ.ร.ก.การทำประมงปี 2558 พร้อมกับกำหนดพื้นที่สำหรับเพาะพันธุ์ลูกหอย ซึ่งจะให้ประมงพื้นที่บ้านเข้ามาร่วมการบริหารจัดการ พร้อมย้ำว่าจะไม่อนุญาตให้ประมงนอกพื้นที่และนายทุน เว้นผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นในพื้นที่เกือบ 40,000 ไร่

ที่มา: ThaiPBS NEWS