Admin
19 พ.ค. 2563
ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานีเดินหน้ารื้อคอกหอยแครงผิดกฎหมาย ย้ำต้องหมดภายใน 25 พ.ค.นี้
ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานีเดินหน้ารื้อคอกหอยผิดกฎหมาย หลังจากเปิดยุทธการกดดันให้ผู้ประกอบการรื้อถอน แต่กลุ่มทุนยังเพิกเฉยเย้ยอำนาจรัฐ จี้ต้องรื้อถอนแล้วเสร็จภายในวันที่ 25 พ.ค.นี้
เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (18 พ.ค.) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ นายบรรเจิด สาริพัฒน์ นายอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า ประมงจังหวัด เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ทางทะเลจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ศรชล.) กอ.รมน. ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 45 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.417 อส. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมผู้นำชุมชนและชาวบ้านกว่า 200 นาย พร้อมเรือตรวจการณ์และเรือหางยาวกว่า 100 ลำ
เข้ารื้อถอนหลักไม้ไผ่และสิ่งปลูกสร้างที่กลุ่มทุนได้มีการลักลอบบุกรุกครอบครองพื้นที่อนุรักษ์ตลอดแนวชายฝั่งท้องทะเลเขต 1,000 เมตร ในพื้นที่ตำบลคลองฉนาก ตำบลบางชนะ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ที่มีความยาวประมาณ 10 กิโลเมตร หรือประมาณ 2,000 ไร่ โดยกำหนดให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้
สำหรับการลงพื้นที่วันนี้ ปรากฏว่า ทางผู้ประกอบการได้โต้แย้งและอุทธรณ์ขอให้ดำเนินการวัดกำหนดจุดแนวเขต 1,000 เมตรให้ชัดเจนเพื่อกำหนดเป็นข้อปฏิบัติร่วมกัน ทั้งกลุ่มประมงพื้นบ้านและกลุ่มผู้ประกอบการเพาะเลี้ยงหอยแครง โดยทุกฝ่ายได้มีมติร่วมกันที่จะวัดแนวเขตให้ชัดเจน
โดยทางนายอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ประมง เจ้าท่า กอ.รมน. เจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ทางทะเล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมตัวแทนกลุ่มประมงพื้นบ้าน เข้าวัดแนวเขตจากชายฝั่งออกมาในทะเล 1,000 เมตรพร้อมปักเสาให้ชัดเจน หากคอกหอยผู้ใดรุกล้ำอยู่ในแนวเขต 1,000 เมตร จะต้องรื้อออกทันที เพื่อเปิดพื้นที่ให้ชาวประมงพื้นบ้านได้มีที่ทำกินถาวรต่อไป
สำหรับพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งในระยะ 1,000 เมตร ของอ่าวบ้านดอน เป็นพื้นที่อนุรักษ์ และพื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์มีลูกหอยแครงเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเป็นจำนวนมาก ซึ่งในแต่ละปีมักจะมีกลุ่มนายทุน กลุ่มผู้ทรงอิทธิพล กลุ่มคนมีสี และกลุ่มผู้นำชุมชนต่างๆ บุกรุกเข้ามาครอบครองเป็นจำนวนมาก เพื่อหวังครอบครองลูกหอยที่เกิดใหม่ โดยดำเนินการปักไม้ไผ่จัดทำเป็นแนวเขตแล้ว และห้ามผู้ใดขับเรือผ่านหรือเข้าไปทำการประมงในแนวเขต ก็จะถูกกลุ่มบุคคลออกมาขับไล่และขู่ทำร้ายหากไม่ออกจากพื้นที่
จนมีการร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานต่างๆ เป็นประจำ ซึ่งในครั้งนี้นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้มีนโยบายที่ชัดเจนสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างในเขตอนุรักษ์ 1,000 เมตรให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนดพร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่จัดเวรยามเฝ้าระวังป้องกันมิให้มีบุกรุกอีกต่อไป
ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์