Admin
30 เม.ย. 2563
ทะเลกัดเซาะชายฝั่งหัวไทรหนัก20หลังจ่อพัง
คลื่นกัดเซาะชายฝั่งหัวไทรต่อเนื่อง ชาวบ้านเชื่อต้นตอเขื่อนกันคลื่นโครงสร้างแข็งทำนิเวศน์เปลี่ยน
สภาพความเสียหายพื้นที่บริเวณชายหาดบ้านโพธิ์ทะเลงาม หมู่ที่ ๕ ต. หน้าสตน อ. หัวไทร จ. นครศรีธรรมราช คลื่นลมรุนแรงตามอิทธิพลหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในอ่าวไทย ทำให้คลื่นสูง น้ำทะเลหนุนเข้ากัดเซาะชายฝั่งอย่างรุนแรง ตามการขึ้นลงของระดับน้ำทะเลอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่ย่านนี้มากกว่า ๓๕๐ ม. ซึ่งเป็นแนวที่มีชุมชนชาวบ้านกว่า ๒๐ หลังคาเรือนอาศัยหนาแน่นกำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง คลื่นกัดเซาะเป็นโพรงลึกเข้าไปใต้ฐานบ้าน ขณะที่สวนมะพร้าวถูกคลื่นซัดกัดเซาะล้มหายไปในทะเล ที่ดินกรรมสิทธิ์ของชาวบ้านถูกกัดเซาะลึกเข้ามาตั้งแต่ ๓๐ – ๗๐ ม. รวมพื้นที่ดินตลอดแนวมากกว่า ๑๕ ไร่บางรายถือกรรมสิทธิ์ที่ดินเพียง ๒ ไร่เศษกลับสูญเสียจากการกัดเซาะไปแล้วกว่าครึ่ง
นางอำนวย จรัญสุข อายุ ๖๕ ปีระบุว่า ปรากฎการณ์กัดเซาะอย่างแรงเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนตลอดที่อาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่จำความได้ สังเกตได้ชัดว่า มีสาเหตุมาจากการสร้างแนวหินกันคลื่นที่ติดกับจุดเริ่มต้นของการกัดเซาะพื้นดิน เริ่มตั้งแต่จุดสิ้นสุดของแนวหินแล้วเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ไปเรื่อยๆ กระแสน้ำเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงจากคลื่นซัดเข้าฝั่งตามธรรมชาติ กลายเป็นคลื่นหมุนม้วนกวาดทรายลงไปในทะเลอย่างต่อเนื่อง กระแสการไหลของน้ำเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เมื่อสร้างแนวหินแบบนี้เชื่อว่า ทางการต้องแก้ไขด้วยการสร้างเช่นนี้ต่อไปไม่รู้จบเนื่องจากเห็นได้ชัดว่าสร้างที่หนึ่ง จะไปก่อปัญหาในอีกที่หนึ่งและต้องทำไปเรื่อยๆ ชาวบ้านได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่งเดินทางไปยังสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อร้องเรียนผลกระทบที่เกิดขึ้น เนื่องจากโครงการก่อสร้างของกรมโยธาธิการและผังเมือง แต่ได้รับคำตอบว่า ไม่มีงบสำหรับก่อสร้างเพิ่มเติมแล้ว ขณะที่นายพงศ์เทพ ไข่มุก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์ และขอให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดสรรงบประมาณเร่งด่วนเพื่อก่อสร้างแนวหินทิ้งต่อจากโครงการของกรมโยธาธิการอีก ๓๐๐ ม. เพื่อป้องกันพื้นที่ของชาวบ้านแล้ว
ที่มา: INNNEWS
