News

เตรียมวัดใจ มทภ.4 ชาวบ้านชวนแก้ปัญหาน้ำเน่า-ขยะทะลัก อึ้ง! วาทกรรม “น้ำเสื่อมโทรมรอการบำบัด”

เตรียมวัดใจแม่ทัพภาค 4 ชาวบ้านจ่อชวนแก้ปัญหา ระบุทั้งกองทัพเจอผลกลิ่นเน่ากองขยะด้วยกัน เคลื่อนไหวต่อหลังไม่เชื่อน้ำยา คกก.แก้ปัญหา ส่อเอื้อกันเอง อึ้ง! วาทกรรมน้ำเน่าบ่อขยะต้องเรียกเป็น “น้ำเสื่อมโทรมรอการบำบัด”

วันที่ 28 ม.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ชาวบ้านใน ต.นาทราย ต.นาเคียน และ ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่รองรับน้ำเน่าเสียจากภูเขาขยะเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ต่างมีความไม่มั่นใจ และกังวลต่อการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าที่แพร่กระจายลงพื้นที่ทางการเกษตร แหล่งน้ำสาธารณะ และชุมชนของพวกเขา หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ประชุม และมีท่าทีอะลุ้มอล่วยระหว่างหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมายแต่ละฉบับ รวมทั้งไม่มีการดำเนินคดีต่อเทศบาลนครนครศรีธรรมราช และโยนความผิดว่าเป็นสื่อมวลชนที่ไปขยายความขัดแย้ง

ขณะที่ผู้ประสานงาน และแกนนำชาวบ้านซึ่งขอไม่เปิดเผยตัวในระยะนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกเข้าไปกดดันจากบางฝ่ายระบุว่า ผิดหวังต่อท่าทีของคณะกรรมการฯ เพราะเป็นไปในทำนองเดียวกับหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนชาวบ้านจะเตรียมเคลื่อนไหวหาทางแก้ปัญหากันเองอีกครั้ง ด้วยการหาช่องทางกฎหมายเข้าดำเนินการทุกช่องทางที่ทำได้ ทั้งศาลปกครอง เพื่อดำเนินการในส่วนของคดีทางปกครอง ส่วนทางอาญานั้นจะเน้นไปในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งอาจมีข้าราชการที่ต้องอยู่ในข่ายหลายคน นับตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็น “เจ้าพนักงาน” ตามกฎหมายที่รับผิดชอบ ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ ทั้งในฐานะผู้กำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไปจนถึงพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องต่อการดูแลสิ่งแวดล้อม

“แต่ครั้งนี้อาจจะเป็นการวัดใจแม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยทหารทั้งหมดกองทัพภาคที่ 4 ชาวบ้านจะเข้ายื่นหนังสือสอบถามท่าทีต่อกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ ซึ่งมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพ และหน่วยทหารระดับกองบัญชาการ กองร้อย กองพัน ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาขยะเช่นเดียวกับหมู่บ้านของชาวบ้าน หน่วยทหารทุกหน่วยตั้งแต่สนามบินทหารเป็นหน่วยแรก ไปจนถึงกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5 เป็นหน่วยสุดท้ายตลอดแนวราว 4 กิโลเมตร ต่างได้รับผลกระทบทั้งหมด ชาวบ้านจะไปชวนทหารมาร่วมแก้ปัญหาอย่างจริงจัง แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะมีท่าทีเงียบเฉยต่อปัญหานี้ต่อไป หรือจะเข้าร่วมในการแก้ปัญหานี้ ก็จะต้องดูกันต่อไป” แกนนำรายนี้ กล่าว

นายสุขเจริญ สุดสมบูรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาทราย ซึ่งเป็นพื้นที่รับผลกระทบหนักที่สุด ระบุว่า ปัญหานี้น่าจะเกินกำลังของจังหวัดไปแล้ว ปัญหาไม่ใช่เกิดในช่วงน้ำท่วม แต่มันเกิดขึ้นหนักหนาสาหัสมาเป็นเวลานาน ชาวบ้านในพื้นที่ต้องมีวิถีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับน้ำ กับทุ่งนาได้รับผลกระทบกันหมด แต่ไม่เคยมีใครเข้ามาดูแลในส่วนนี้

นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า ผู้ติดตามข่าวน้ำเน่าเสียจากภูเขาขยะเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ต่างตกตะลึงต่อการใช้คำใหม่ในการเรียกน้ำเน่าจากบ่อขยะ ที่กำลังส่งผลกระทบต่อชาวบ้านอยู่ในขณะนี้ ซึ่งมีต้นตอจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.นครศรีธรรมราช และกลายเป็นวาทกรรมที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก คือ การปฏิเสธว่าน้ำเน่าที่ไหลออกมาจากบ่อขยะไม่ได้เป็นเน่าเสีย เนื่องจากถูกน้ำฝนเจือจางไปมากแล้ว และไม่รู้ว่าแพร่กระจายไปมากแค่ไหน น้ำเหล่านี้จะถูกเรียกว่า “น้ำเสื่อมโทรมรอการบำบัด”

ส่วนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ส่งหน่วยแพทย์ลงพื้นที่ ต.นาทราย ติดตามข้อมูลกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ และได้เข้าสุ่มตรวจอาการป่วยของประชาชนพบว่า มีจำนวนหลายสิบคนที่มีอาการป่วยโรคผิวหนังเป็นแผลพุพอง ต่างยืนยันว่าเกิดจากการไปลุยน้ำหาปลาในพื้นที่น้ำเสียจากกองขยะแพร่กระจายดังกล่าว

ที่มา : http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9600000009432