News

ผวจ.นราฯ ยัน10วัน ระบายน้ำท่วมได้หมด

ผู้ว่าฯนราธิวาส ยืนยัน 10 วัน ระบายน้ำท่วมทั้งจังหวัดได้หมด ด้านชลประทานระดมสูบน้ำระบายลงทะเล

รายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมขังจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุดนายสิทธิชัย ศักดา ผวจ.นราธิวาส และนายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผอ.โครงการชลประทานนราธิวาส ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการระบายน้ำ 2 จุด คือ 1.ที่บริเวณคลองยะกัง ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส ที่ขณะนี้ทางชลประทานได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่อีก 2 เครื่อง จาก จ.ปัตตานี รวมของเดิมเป็น 7 เครื่อง ที่กำลังเดินเครื่องเพื่อสูบน้ำจากคลองยะกัง วันละ 1 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อลงสู่ทะเล ซึ่งจุดนี้เป็นผลพวงจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก เมื่อวันที่ 20 ม.ค.60 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส โดยมีปริมาณฝนตกหนักในวันนั้นเพียงวันเดียว 441 มิลลิเมตร จนทำให้เกิดน้ำท่วมขังเป็นวงกว้าง ส่วนจุดที่ 2 คณะได้เดินทางไปยังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลุ่มน้ำบางนราตอนบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ซึ่งตั้ง ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส ซึ่งทางกรมชลประทานได้เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 ช่องทาง เพื่อระบายน้ำลงสู่ทะเล เฉลี่ยวันละ 160 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งการเปิดระบายน้ำ 2 ช่องทางหลักนี้ คาดว่า 10 วัน จะระบายน้ำท่วมขังทั้งจังหวัดกลับคืนสู่สภาวะปกติได้

นอกจากนี้แล้ว ปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ยังไม่คลี่คลายและมีน้ำท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของประชาชนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำ จุดที่ยังวิกฤติที่สุดของ จ.นราธิวาส ในขณะนี้ คือ บ้านปิเหล็ง ม.7 ต.สุไหงปาดี อ.สุไหงปาดี ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าวเป็นจุดลุ่มต่ำที่สุดของ จ.นราธิวาส ซึ่งมีระดับความสูงเท่ากับริมตลิ่งของแม่น้ำบางนรา เมื่อแม่น้ำบางนรามีปริมาณลดลงต่ำกว่าตลิ่งเมื่อใด หมู่บ้านดังกล่าวนี้จึงจะกลับคืนสู่สภาวะปกติตามไปด้วย

แต่ถึงอย่างไรก็ตามหมู่บ้านปิเหล็งแห่งนี้ ได้รับการดูแลเป็นกรณีพิเศษจากนายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงปาดี ที่มีประชาชนอาศัยอยู่จำนวนกว่า 30 ครัวเรือน โดยยังมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 50 ถึง 70 ซ.ม. มานานกว่า 1 เดือนแล้ว แต่โชคดีที่มีชาวบ้านในพื้นที่ได้ร่วมกันบริจาดเงิน เป็นค่าอาหารให้แม่ครัวจิตอาสาได้ปรุงอาหารสำเร็จรูปไว้แจกจ่ายให้กับประชาชนได้รับประทานทุกวัน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมนำแพทย์โรงพยาบลสุไหงปาดี ขึ้นเรือท้องแบนเพื่อไปตรวจสุขภาพของประชาชนที่เจ็บป่วยถึงบ้านพัก โดยเฉพาะโรคไข้หวัดและน้ำกัดเท้า จนสร้างความประทับใจให้กับประชาชนที่ทางการไม่ทอดทิ้ง

ที่มา : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/737993