Admin 3 เม.ย. 2563

เรือสินค้าซิ่งชนเรือประมงหักกลางท่อนแล้วเผ่นหนี

เจ้าของเรือเจ็บปวดหลังโดนเรือบรรทุกสินค้าซิ่งชนหนีตอนตี5 วันที่ 3 เม.ย.รีบรุดแจ้งความ สน.พลูตาหลวง ไม่รับแจ้งความตำรวจมึนพิกัดเรือชน พึ่ง ศร.ชลภาค 1 ส่งไปแจ้งความที่ สภอ.สัตหีบแทน

1

นายปรีชา เกษมธีระสมบูรณ์ ผู้ประกอบการเรือประมงศรีนพรัตน์ 11  เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เมื่อเวลา วลา 5.58 น. วันที่ 3 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา เรือศรีนพรัตน์ 11 (เรือลากเเผ่นตะเฆ่) ขนาด 83 ตันกรอส เลขทะเบียน3109-02396  โดนเรือสินค้าชนจม ชื่อ sun flura เป็นเรือสีส้มกำลังวิ่งเข้าฝั่งที่พิกัด ลัตติจูด12.11.73,ลองติจูด 100.54.579 หักกลางท่อน แรงานว่ายน้ำหนีตาย 8 ชีวิต ดีที่มีเรือประมงที่อยู่ใกล้เคียงช่วยเหลือปลอดภัยทุกคน พร้อมจดทะเบียนเรือที่ชนแล้วหนีให้ด้วย

2

“เมื่อดูพิกัดจากการชนดังกล่าวนี้ทางกรมเจ้าท่าก็ได้แนะนำให้ไปแจ้งความกับ สน. เมื่อพิจารณาว่าน่าจะเป็นพื้นที่ของ สภอ.พลูตาหลวง แต่เมื่อไปถึงไม่รับแจ้งความ เนื่องจากพิกัดที่บอกเรือเป็นลองติจูด และลัดติจูด ตำรวจไม่เข้าใจว่าจุดเกิดเหตุอยู่ที่ไหน จึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือไปที่สมาคมประมงจังหวัดสมุทรปราการ ทางคุณพิชัย แซ่ซิ้ม นายกสมาคม ได้ประสานศรชล.ภาค1 อำนวยความสะดวกโดยให้ฝ่ายกฎหมายจะพาไปที่ สภอ.สัตหีบ กำลังจะเดินทางไป”

3

นายปรีชา กล่าวว่า ลำบากในการแจ้งความเพราะเกิดเหตุทางน้ำ แต่ไปแจ้งทางบก (เวลาออกเอกสารไปต่อกับกรมเจ้าท่าและกรมประมง) เพราะจริงๆ ควรจะไปแจ้งกับกรมเจ้าท่า แล้วให้กรมเจ้าท่าจัดการให้เลยน่าจะรวดเร็วกว่านี้ เพราะเรือวิ่งเส้นทางทะเลกรมเจ้าท่าจะทราบดีว่าเรือแต่ละลำออกจากท่าเทียบเรือไหน วิ่งไปเส้นทางไหน ตรงนี้น่าจะปรับระบบใหม่

4

“จากการสอบถามจากไต๋เรือ พบว่ากำลังทำการประมงอยู่ แต่ไม่รู้ว่าเรือบรรทุกสินค้าเข้ามาชนอย่างไร แต่เมื่อเห็นสภาพเรือต้องต่อเรือใหม่อย่างเดียวเลย หากต่อเรือใหม่ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท"

ด้านนายพิชัย แซ่ซิ้ม นายกสมาคมการประมงสมุทรปราการ กล่าวสั้นๆ เป็นเรือเพิ่งได้รับใบอนุญาตเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2563 มาเคราะห์ร้ายเจอเหตุการณ์แบบนี้ในท่ามกลางวิกฤติไวรัสระบาดนับว่าเป็นความเคราะห์ร้ายอย่างยิ่ง แต่ยังไม่ทราบเหตุการณ์จริงเรื่องราวเป็นอย่างไร ก็อยากให้หน่วยให้งานที่เกี่ยวข้องนำเรือบรรทุกสินค้าดังกล่าวมารับผิดชอบโดยเร็วที่สุด

อย่างไรก็ดีได้รับรายงานล่าสุดว่าลูกเรือประมง 8 คนถึงฝั่งปลอดภัยแล้ว

ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ