Admin 3 ต.ค. 2562

สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ร่อนแถลงการณ์ค้านมติ ครม.ถมทะเลมาบตาพุด

สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ร่อนแถลงการณ์คัดค้านมติ ครม.เห็นชอบถมทะเลมาบตาพุด ชี้ยิ่งเพิ่มผลกระทบรุนแรงต่อชายฝั่งทะเลและพื้นที่บนบก เตรียมปลุกชาวระยองใช้สิทธิยื่นฟ้องศาลปกครองระงับโครงการ

621003_Mgr_01_zpszzrfbyit

จากกรณีที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา เห็นชอบเรื่องการลงทุนโครงการขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ในโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ตามที่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เสนอในกรอบวงเงิน 55,400 ล้านบาท โดยเป็นงานขุดลอกและถมทะเลพื้นที่ 1,000 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ถมทะเลหลังท่าเพื่อใช้งานประมาณ 550 ไร่ (เพื่อก่อสร้างท่าเรือ และพื้นที่พัฒนาอุตสาหกรรมด้านพลังงาน) พื้นที่บ่อเก็บกักตะกอนดินเลน ประมาณ 450 ไร่

ท่าเรือก๊าซ (พื้นที่ 200 ไร่ ความยาวหน้าท่า 1,415 เมตร) ท่าเทียบเรือสินค้าเหลว 2 ท่า (พื้นที่ 200 ไร่ ความยาวหน้าท่า 814 เมตร) คลังสินค้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติ (พื้นที่ 150 ไร่) นั้น

วันนี้ (2 ต.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านมติ ครม.เห็นชอบถมทะเลมาบตาพุด 1,000 ไร่ 30 ปีที่ผ่านมายังทำลายมาบตาพุดไม่พออีกหรือ? โดยระบุว่า การถมทะเลดังกล่าวจะยิ่งเพิ่มผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชายฝั่งทะเลและพื้นที่บนบก โดยเฉพาะกระทบกับทรัพยากรทางทะเลและวิถีทางการประมงพื้นบ้านและการท่องเที่ยวของชุมชนในบริเวณทะเลทะเลมาบตาพุด หาดแสงจันทร์ และหาดพลา ให้เสียหายรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ นับแต่รัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้เริ่มโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 1 ในปี พ.ศ.2525 ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ.2525-2529) เป็นต้นมาจวบจนปัจจุบันกว่า 30 ปี พบว่า จ.ระยอง ซึ่งเคยเป็นอัญมณีแห่งภาคตะวันออก กลับกลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมมลพิษที่มีโรงงานอุตสาหกรรมมากว่า 2,000 โรงในปัจจุบัน ซ้ำยังเกิดอุบัติภัยเกี่ยวภัยสารเคมีแพร่กระจายมากกว่า 40 ครั้ง

621003_Mgr_02_zpsbarr6kdb

เช่น ท่อส่งก๊าซคาร์บอนิลคลอไรด์เกิดการแตกรั่ว เรือบรรทุกแอมโมเนียมไนเตรตล่ม รถบรรทุกสารเคมีซีโฟร์พลิกคว่ำ ไฟไหม้โรงงานพลาสติก เกิดการรั่วไหลของสารระเหยอินทรีย์ เพลิงไหม้น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล น้ำมันเตารั่วไหลลงทะเล ไฟไหม้ถังเก็บสารเอทิลีน รถบรรทุกกรดไฮโดรคลอริกเกิดระเบิดและรั่วไหล เหตุระเบิดที่โรงงานบรรจุก๊าซ และท่อส่งคิวมีนรั่วไหล รถขนโซดาไฟพลิกค่ำในลำคลอง แอมโมเนียรั่วไหลออกจากท่อส่งที่ผุกร่อน และสารเคมีประเภทวัตถุระเบิด รวมทั้งการลักลอบทิ้งกากของเสียที่ปรากฏเป็นข่าวมีมากมายนับไม่ถ้วน

และการที่รัฐมนตรีมุ่งเป้ามาขยายพื้นที่มาบตาพุด โดยขยายพื้นที่การถมทะเลเพิ่มมากขึ้นนับ 1,000 ไร่ ชี้ให้เห็นถึงความมืดบอดของคณะรัฐมนตรี ที่มองไม่เห็นทุกข์ภัยที่เกิดขึ้นกับชาวบ้านและทรัพยากรทางทะเลที่เสียหายมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน กลับมองเห็นแต่ประโยชน์ของกลุ่มทุนอุตสาหกรรมเป็นที่ตั้ง ทั้งๆ ที่เห็นกันชัดๆ ว่า ชายทะเล ชายหาดถูกน้ำทะเลกัดเซาะพังเสียหายอันเนื่องมาจากการถมทะเลที่ผ่านมาเป็นประจักษ์ชัดอยู่แล้ว แต่ทว่ารัฐบาล และหน่วยงานที่มีหน้าที่เห็นชอบ EHIA ต่างไม่เคยนำบทเรียนดังกล่าวมาคำนึงถึงแต่อย่างใด

ดังนั้น เมื่อรัฐบาลและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องไม่เห็นประชาชนอยู่ในสายตา ก็ถึงเวลาแล้วที่สมาคมฯ และประชาชนคนระยองจะได้ใช้สิทธิทางศาลในการยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อระงับโครงการดังกล่าวต่อไปในเร็วๆ นี้

ที่มา: MGR ONLINE