Admin 20 ก.ย. 2562

กรมประมงกวาดล้างเรือ 'ไอยูยู' พ้นน่านน้ำไทย

ลั่นผนึกหน่วยงานรัฐและเอกชน จับกุมเรือต้องสงสัยเข้าข่ายไอยูยู ในน่านน้ำไทยสำเร็จ ลุยสอบข้อเท็จริงต่อ

4-1

นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เมื่อกลางดึกของวันที่ 13 ก.ย.2562 กองทัพเรือ กรมประมง และกรมเจ้าท่า ได้ร่วมกันจับกุมเรือในเขตน่านน้ำไทย บริเวณชายฝั่งจังหวัดพังงา เป็นเรือขนถ่ายสัตว์น้ำ ขนาด 3,000 ตันกรอส ชื่อ UTHAIWAN สัญชาติแคมมารูน ตามที่แสดงในระบบรายงานตนอัตโนมัติ (AIS) เนื่องจากเป็นเรือที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นเรือที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับการทำประมง IUU ในหลายประเทศทั่วโลก

โดยได้รับข้อมูลยืนยันตรงกันว่าเรือลำนี้ น่าจะเป็นเรือลำเดียวกับเรือที่ถูก IOTC ประกาศว่าเป็น เรือ IUU ในอดีตเคยใช้ชื่อ Wisdom Sea Reefer และอ้างว่าถือธงสัญชาติ Honduras โดยกรมประมงได้เริ่มดำเนินการติดตามเรือลำดังกล่าวทางระบบ AIS ตั้งแต่เรือออกจากท่าที่ประเทศกัมพูชาในวันที่ 2 ก.ย.2562 ซึ่งเรือลำดังกล่าว

จนกระทั่งวันที่ 14 ก.ย.2562 เวลา 01.30 น. ชุดสหวิชาชีพร่วมกับชุดตรวจค้นจากเรือ ต.113 ได้ขึ้นทำการตรวจสอบเรือลำดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าเป็นเรือ IUU จริง มีลูกเรือจำนวน 8 คน เป็นชาวไทยทั้งหมด จึงได้แจ้งข้อกล่าวหามีความผิดตามพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 และ พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 มาตรา 94 ห้ามมิให้ผู้ใดนำเรือประมงที่มิใช่เรือประมงไทย ที่มีการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักร และควบคุมเรือลำดังกล่าวเดินทางกลับมายังท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายอดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า การจับกุมเรือในครั้งนี้ เป็นการทำงานแบบบูรณาการอย่างแท้จริง ได้รับความร่วมมือทั้งจาก Interpol OceanMind กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง และเอกชนในจังหวัดภูเก็ตที่อนุญาตให้ใช้ "เรือธัญวิสิทธิ์ 5" และพร้อมออกปฏิบัติการได้ภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แสดงถึงความมุ่งมั่นในการแก้ไขปัญาการกระทำประมง IUU

ขณะนี้ กรมประมง กำลังร่วมกับทีมสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการรวบรวมข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะประวัติการทำประมง และการใช้แรงงาน โดยเฉพาะประวัติการขนถ่ายสัตว์น้ำของเรือลำนี้ในน่านน้ำประเทศต่างๆ เพื่อนำสัตว์น้ำ IUU เข้าสู่วงจรการผลิตและบริโภคในแต่ละประเทศ เและประวัติการถือธงของเรือลำนี้ ซึ่งทราบเบื้องต้นว่ามีการกล่าวอ้างว่าได้รับอนุญาตให้ถือธงจากหลายประเทศ โดยอาจมีทั้งที่ใช้เอกสารจริง และเอกสารปลอม

"ทั้งหมดนี้เราจะตรวจสอบทั้งหมดอย่างใกล้ชิด เพราะเชื่อว่าจะได้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการปรับปรุงกลไก และความร่วมมือระหว่าง นานาประเทศให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นในการรับมือกับปัญหาการทำประมง IUU"

ที่มา:กรุงเทพธุรกิจ