News

ทุ่นดักขยะปากแม่น้ำ ดักขยะพลาสติก 1 ปี ได้ 98 ล้านชิ้น ก่อนลงทะเล

“หมดเวลา ขยะพลาสติก” วันนี้ ทีมข่าว PPTV เสนอข้อมูลสำคีญจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ดำเนินการติดตั้ง “Bloom” หรือที่เรียกว่า ทุ่นกักขยะตามปากแม่น้ำสำคัญ 5 สายก่อนไหลลงทะเล โดยทำโครงการมา 1 ปี พบว่าทุ่นกักขยะ สามารถดักขยะได้รวม 2,172 ตัน ซึ่งขยะที่พบมากสุดคือ ถุงพลาสติกกว่า 98 ล้านชิ้น

จากการทำโครงการทุ่นดักขยะปากแม่น้ำ 5 สาย คือแม่น้ำบางปะกง แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางตะบูน ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เมื่อปี 2560 เป็นระยะเวลา 1 ปี พบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับขยะพลาสติก

ข้อมูลที่พบ คือ เจ้าหน้าที่เก็บขยะที่ลอยจากแม่น้ำมาติดทุ่นดักขยะก่อนไหลลงทะเลได้รวมถึง 2,172 ตัน ซึ่งแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณขยะมากที่สุดคือ 1,425 ตัน รองลงมาคือแม่น้ำท่าจีน 361 ตัน แม่น้ำแม่กลอง 173 ตัน แม่น้ำบางปะกง 166 ตัน และแม่น้ำบางตะบูน 48 ตัน ถ้าจำแนกชนิดขยะก็พบว่า ถุงพลาสติกสามารถเก็บได้มากที่สุด ถึง 98,822,270 ชิ้น รองลงมาคือ พลาสติกแข็ง อย่างแก้วพลาสติก ขวดพลาสติก

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุผลการเก็บข้อมูลเรื่องขยะทะเล ในช่วง 15 ปีหลัง พบว่า 80% เป็นขยะจากฝั่งไหลลงสู่ทะเล โดยเฉพาะพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง (single use plastic) และยังเป็นขยะที่คร่าชีวิตสัตว์ทะเลมากกว่าเครื่องมือประมง

ส่วนในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ (21 ส.ค. 2562) นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งกระทู้ถามเรื่องแนวทางการจัดการปัญหาขยะพลาสติกในทะเล หลังพบพลาสติก 8 ชิ้น เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ พะยูน มาเรียม ตายลงไปเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน เพราะขยะพลาสติกไปปะปนกับหญ้าทะเล ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของพะยูน ซึ่งแม้ว่าพลาสติกที่พบในท้องมาเรียมจะเป็นแม็กโครพลาสติก ขนาดใหญ่กว่า 1 นิ้ว แต่ก็เชื่อว่า อาจแตกตัวเป็นไมโครพลาสติกที่มีขนาดเล็กกว่า 5 มิลมิเมตร หรือ เป็นชนิดที่เล็กจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตอบกระทู้ว่า ไมโครพลาสติกที่พบมีที่มา 2 ทาง คือ เม็ดบีดในโฟมล้างหน้า และชนิดที่แตกตัวมาจากพลาสติกขนาดใหญ่ ซึ่งยังไม่มีเทคโนโลยีใดใช้กำจัดได้ โดยประเทศไทยมีโรดแมปที่จะยกเลิกการใช้พลาสติก 7 ชนิด โดยในปีนี้คณะอนุกรรมการบริหารจัดการขยะพลาสติก มีมติยกเลิกการใช้พลาสติกไปแล้ว 3 ชนิด คือ พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม (cap seal) พลาสติกที่มีส่วนผสมของสารประเภทอ็อกโซ่ (oxo) และไมโครบีดจากพลาสติก ส่วนกลุ่มที่จะแตกตัวเป็นไมโครพลาสติก คือ ถุงหูหิ้วและกล่องโฟม มีแผนจะยกเลิกในปี 2565 แต่กำลังจะผลักดันให้เกิดขึ้นได้ภายในปี 2564 ส่วนอีก 2 ชนิด คือ แก้วพลาสติก และหลอดพลาสติก มีแผนจะยกเลิกในปี 2568

รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังเปิดเผยว่า ปัจจุบันมีเรือเก็บขยะของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพียง 2 ลำ อยู่ที่ปากแม่น้ำ จ.สมุทสาคร และจ.ภูเก็ต แต่ต้องการเรือเก็บขยะเพิ่มอีก 7 ลำ เพื่อไปประจำในพื้นที่อื่นๆ เช่นที่ปากแม่น้ำ จ.ชลบุรี ชุมพร สุราษฎร์ธานี

ที่มา:PPTV ONLINE