Admin
15 ก.ค. 2562
วิกฤตพะยูน! พบตายถี่ยิบล่าสุดพบที่กระบี่-พังงา รวม 2 เดือนตายแล้ว 5 ตัว
กระบี่ - วิกฤตพะยูน! พบตายถี่ยิบ ล่าสุด พบซากที่กระบี่-พังงา รวม 2 เดือนตายแล้ว 5 ตัว
ไม่พบบาดแผล สภาพยังสมบูรณ์ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกำลังเร่งศึกษาพิกัดที่เกิดเหตุหาทางป้องกัน
เกิดอะไรขึ้นกับพะยูน สัตว์ทะเลหายาก ญาติๆ ของพะยูนน้อยมาเรียม และยามีล ที่ทยอยตายต่อเนื่อง เฉพาะเดือน มิ.ย.-ก.ค.62 พบว่าในพื้นที่จังหวัดกระบี่ และตรัง พบพะยูนขนาดใหญ่ตายแล้ว 5 ตัว โดยวันที่ 14 ก.ค. 62 นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ได้รับแจ้งจากสมาชิกแฟนเพจกรมอุทยานฯ ว่า มีชาวประมงพื้นบ้าน จ.กระบี่ พบซากพะยูนขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 2 เมตร ลอยอยู่กลางทะเลระหว่างเกาะปูกับเกาะพีพี จ.กระบี่ เขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี
จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ซึ่งประจำเกาะไม้ไผ่ เข้าทำการตรวจสอบ ซึ่งจากสภาพเบื้องต้น พบพะยูนมีสภาพสมบูรณ์ ไม่มีบาดแผลใดๆ เป็นพะยูนที่มีอายุมากแล้ว น้ำหนักประมาณ 400 กิโลกรัม
นายวรพจน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุการตายได้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่อุทยานฯ อยู่ระหว่างการนำซากพะยูนตัวดังกล่าว ไปทำการพิสูจน์หาสาเหตุการตาย ในคณะวิทยาศาสตร์และการประมง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ซึ่งใช้เรือและเจ้าหน้าที่ ของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ นำพะยูนเพื่อส่งตรวจสอบหาสาเหตุการตายของพะยูนตัวดังกล่าวต่อไป
ขณะที่การตรวจสอบซากพะยูนเพศผู้ ซึ่งพบบริเวณหาดนุ้ย บ้านคลองนิน ม.5 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา ความยาว 2 เมตร น้ำหนักประมาณ 60-70 กก. สภาพภายนอกไม่พบรอยบาดแผล บริเวณสะดือมีไส้ทะลักออกมา โดยเขี้ยวถูกตัดไป คาดว่าตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 วัน และมีการประสานนำซากส่งสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลภูเก็ต กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก จังหวัดภูเก็ต เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย
คืบหน้าล่าสุด นายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า จากที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลภูเก็ต-กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก (ทช.) มารับซากพะยูนไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายแล้ว ซึ่งผลการผ่าพิสูจน์โดยสัตวแพทย์ พบว่า ร่างกายสมบูรณ์ ผ่าท้องดูกระเพาะและลำไส้ พบสารอาหารสมบูรณ์ ไม่พบรอยช้ำหรือการถูกทำร้าย สภาพซาก สะดือแตก และลำไส้ทะลัก แต่ไม่สามารถตัดชิ้นเนื้อพิสูจน์ได้ เพราะซากพะยูนตัวดังกล่าวเริ่มเน่าเปื่อย
ส่วนเขี้ยวที่ถูกตัดไปก่อนหน้านี้นั้น สันนิษฐานว่าเป็นการตัดไปภายหลังการตาย เพราะหากโดนทำร้าย หรือล่า หรือตัดเขี้ยวก่อนตาย จะต้องมีร่องรอยบอบช้ำ หรือร่องรอยอุปกรณ์จับปลาปรากฏอยู่ โดยทางสัตวแพทย์จึงลงความเห็น เป็นการตายอย่างเฉียบพลัน โดยผิดธรรมชาติ
ขณะที่มีรายงานข่าวว่า นอกจากจะพบซากพะยูนที่กระบี่ วันที่ 14 ก.ค. 62 ชาวประมงพบซากพะยูนตายลอยอยู่ในทะเลพื้นที่จังหวัดตรังอีก 1 ตัว
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์พะยูนในทะเลอันดามันที่ตายมากผิดปกตินั้น เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อ kongkiat kittiwatanawong ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับสถานการณ์ของพะยูน ว่า สรุปสถานการพะยูนเกยตื้นในวันที่ 14 กรกฎาคม 2562 วันนี้พบเสียชีวิตอีก 2 ตัว รวมเป็น 5 ตัวที่เสียชีวิตทั้งจังหวัดตรังและกระบี่ และรวมเป็น 7 ตัว เมื่อรวมมาเรียม และยามีล ตอนนี้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกำลังเร่งศึกษาพิกัดที่เกิดเหตุ โดยความร่วมมือของนักวิชาการด้านสมุทรศาสตร์โมเดล เมื่อรวมกับข้อมูลการชันสูตรจะทำให้เราทราบว่าเหตุเกิดที่ไหนและเกิดอย่างไร นอกจากนี้ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งก็ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ในการเฝ้าระวังครอบคลุมพื้นที่การแพร่กระจายของพะยูนทั้งหมด
มีข้อสังเกตว่า ระยะนี้ชาวบ้านทำประมงพื้นบ้านมากขึ้น เพราะสัตว์น้ำเยอะขึ้นผิดกับปีที่แล้ว อย่างช่วงนี้ปกติอวนสามชั้นกุ้งจะไม่ทำแล้ว แต่ปีนี้กุ้งเยอะ อวนสามชั้นก็ยังทำอยู่ กุ้งก็ตัวโตๆ เรือจับสัตว์น้ำได้ เรือหนักจนแทบจะจมในบางลำ ซึ่งจากข้อมูลการเสียชีวิตของพะยูนในรอบ 30 ปี เราพบว่าเกือบ 90% เกิดจากการติดเครื่องมือประมง "โดยบังเอิญ"
คงต้องฝากความหวังเรื่องการทำประมงพื้นบ้านที่ทำให้บริเวณใกล้แหล่งหญ้าทะเลซึ่งเป็นแหล่งหากินของพะยูนและเต่าทะเลให้ช่วยระวังและป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับสัตว์สงวนและคุ้มครองทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ด้วย ถ้าวางอวนก็ขอให้ช่วยเฝ้าเครื่องมือเผื่อกรณีติดอวนจะได้ช่วยเหลือได้ทัน