News

ผ่าพิสูจน์ "วาฬบรูด้า"ทะเลสุราษฎร์ฯ เจอรอยช้ำบริเวณหัว-หาง

ทีมสัตวแพทย์ ผ่าพิสูจน์ซากวาฬบรูด้า ความยาว 10.8 เมตร

บริเวณชายหาดสำเร็จ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี หาสาเหตุการตายแล้ว

เบื้องต้นพบรอยช้ำที่ส่วนหัว และหาง ยังไม่ฟันธงกระแทกเรือ หรืออวนประมง

ขณะที่ในช่วง 3 ปีวาฬบรูด้าตาย 5 ตัว หนักสุดแค่ 1 เดือนปีนี้ตาย 3 ตัว

วันนี้ (21 มิ.ย.2562) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ได้รับการรายงานวาฬบรูด้า 2 ตัวตาย ซึ่งเกิดขึ้นภายในวันเดียวกันเมื่อวานนี้ (20 มิ.ย.) ตัวแรกลอยเกยตื้นติดชายฝั่ง บริเวณป่าโกงกาง ห่างจากวัดขุนสมุทรจีนไปทางทิศตะวันออกประมาณ 4 กิโลเมตร

จากการสำรวจบริเวณปากอ่าวไทยใกล้ จ.สมุทรปราการ และพื้นที่ติดต่อมีวาฬบรูด้าจำนวน 50 ตัว คาดว่าตัวที่เกยตื้นนั้นน่าจะเป็นตัวที่กำลังเป็นวัยเจริญพันธุ์ และเป็นตัวที่ 3 ในรอบ 12 ปีที่เกยตื้นตาย

ส่วนวาฬบรูด้าตัวที่ 2 พบเกยตื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้มอบหมายให้ นายวิชัย สมรูป ผอ.สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ลงพื้นที่ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลากซากวาฬบรูด้าขึ้นฝั่ง บริเวณสวนสาธารณะ บ้านท่ากระจาย ม.1 ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฏร์ธานี เพื่อให้ทีมสัตว์แพทย์ จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (จ.ชุมพร) ผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

เจอร่องรอยช้ำที่หัว-หาง ยังไม่ชัดกระแทกของแข็งตาย

ด้านสัตวแพทย์หญิงวัชรา ศากรวิมล สัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง นำทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ 15 คน ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย ซึ่งจากการตรวจสอบ พบเป็นวาฬบรูด้าตัวผู้วัยรุ่น ขนาดความยาว 10.8 เมตร หนัก 10 ตันคาดว่าน่าจะตายมาแล้ว 2-3 วัน สภาพซากมีความสมบูรณ์เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์

“จากการพิสูจน์เบื้องต้น พบว่าในบริเวณหัว และหางพบรอยช้ำ

เป็นไปได้หลายสาเหตุอาจจะถูกอวนเรือประมง หรือถูกกระแทกกับเครื่องมือประมง หรือของแข็ง แต่ยังไม่สามารถระบุการตายได้”