Admin
8 ม.ค. 2560
คลื่นซัดเรือตกปลาจมทะเลภูเก็ต เตือนเรือเล็กงดออกจากฝั่ง
ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 (ศรชล.เขต 3) สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต และเครือข่ายวิทยุ VTMS อ่าวฉลอง ได้รับการประสานว่า มีเรือไฟเบอร์ตกปลา จมทะเลบริเวณหัวแหลมเกาะราชาน้อย ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยผู้โดยสารทั้งหมด 4 คน สามารถว่ายน้ำขึ้นฝั่งบริเวณเกาะราชาน้อย ซึ่งห่างจากจุดที่เรือจมประมาณ 500 เมตร ได้อย่างปลอดภัย ระหว่างนั้นได้มีเรือประมง ต.ณรงค์ฤทธิ์ ผ่านไปเจอได้เข้าให้การช่วยเหลือ เบื้องต้นในการให้ทางเจ้าของเรือตกปลา ทราบชื่อคือ นายศิริศักดิ์ ศรีเทพ ติดต่อกลับมายังลูกชายที่บนฝั่งภูเก็ตนำเรือสปีดโบ๊ท ชื่อ ชญานนท์ 59 ไปรับขึ้นฝั่งที่อ่าวฉลอง อ.เมืองภูเก็ตเรียบร้อย
จากการสอบถามไปยัง นายณชพงศ ประนิตย์ เจ้าพนักงานตรวจเรือชำนาญการ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ทราบว่า เรือลำที่จมดังกล่าวเป็นเรือไฟเบอร์ตกปลาส่วนตัว ชื่อเรือ เทพสิริ เป็นเรือสปีดโบ๊ท 1 เครื่องยนต์ ขนาดความยาวประมาณ 10 เมตร มีนายศิริศักดิ์ ศรีเทพ เป็นเจ้าของได้นำเรือลำดังกล่าวพร้อมผู้โดยสาร (กลุ่มเพื่อน) ออกไปตกปลาในทะเลตั้งแต่วันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา และระหว่างเดินทางกลับเข้าฝั่งเกาะภูเก็ตมีคลื่นลมแรง จึงได้นำเรือเข้าหลบคลื่นบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ และลมเปลี่ยนทิศ จึงต้องนำเรือไปหลบอีกฝั่ง ขณะที่กำลังนำเรือออกจากฝั่งเพื่อไปหลบอีกด้านหนึ่งของเกาะ ได้ประมาณ 400-500 เมตรมา ถึงบริเวณหัวแหลมเกาะราชาน้อย ได้มีคลื่นขนาดใหญ่สูงประมาณ 3-4 เมตร พัดเข้ามาทำให้น้ำเข้าเรือและจมลงทะเลในที่สุด โดยผู้ที่อยู่บนเรือทั้ง 4 คน ซึ่งต่างใส่เสื้อชูชีพสามารถที่จะว่ายน้ำไปขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย แต่ทรัพย์สินและอุปกรณ์ในการสื่อสารทั้งหมดจมไปกับเรือ โชคดีระหว่างนั้นได้มีเรือประมงชื่อ ต.ณรงค์ฤทธิ์ ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ และเข้าไปช่วยเหลือ โดยนายศิริศักดิ์ ศรีเทพ ขอใช้โทรศัพท์ติดต่อมายังลูกชายบนเกาะภูเก็ตให้นำเรือออกไปรับ และได้นำเรือสปีดโบ๊ท 3 เครื่องยนต์ ชื่อ ชญานนท์ 59 รับกลับมาขึ้นฝั่งภูเก็ตที่ท่าเทียบเรืออ่าวฉลองได้ปลอดภัย
อย่างไรก็ตามนายณชพงศ กล่าวด้วยว่า ในระยะนี้ฝั่งทะเลอันดามันคลื่นลมค่อนข้างแรง โดยเฉพาะในส่วนของทะเลเปิด คลื่นจะมีความสูงประมาณ 3-4 เมตร ซึ่งในส่วนของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ได้มีการประกาศเตือนฉบับที่ 3/2650 ขอให้มีการเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กซึ่งมีขนาดไม่เกิน 10 เมตร ทุกประเภทควรงดออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด ส่วนของเรือขนาดใหญ่ที่เป็นเรือโดยสารระหว่างเกาะ (ภูเก็ต-พีพี จ.กระบี่) ซึ่งต้องมีขนาดตั้งแต่ 12 เมตรขึ้นไป ยังสามารถออกได้แต่ก็ต้องระมัดระวัง รวมทั้งได้กำชับผู้ประกอบการให้ผู้โดยสารใส่เสื้อชูชีพตลอดเวลาที่อยู่บนเรือ เพื่อความปลอดภัย แต่หากมีคลื่นสูงเกินกว่า 4 เมตรก็ต้องงดออกจากฝั่งเช่นกัน ทั้งนี้ทางเจ้าท่าฯภูเก็ตได้มีการเฝ้าระวังเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด
ที่มา : http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=802106
