Admin
8 เม.ย. 2562
เปิดสถิติบุกรุกป่าชายเลน 6 ปีทะลัก 1,165 คดี 4.9 หมื่นไร่ จันทบุรี สตูล ตราด มากสุด
“..ตั้งแต่ปี 2557 ถึง 31 มีนาคม 2562 ทั้ง 24 จังหวัด 10 สบทช. มีคดีบุกรุกทั้งสิ้น 1,165 คดี พื้นที่ 49,235.11ไร่ และมีผู้ต้องหา 410 ราย จังหวัดที่มีคดีบุกรุกมากที่สุดคือ จันทบุรีอยู่ในพื้นที่ สบทช.1จำนวน 251 คดี พื้นที่ 18,339.11 ไร่ มีผู้ต้องหา 54 ราย..”
มิใช่แค่พังงา จังหวัดเดียวที่มีปัญหาการบุกรุกป่าชายเลน ในภาพรวมทั่วประเทศในช่วง 3 ปีหลัง หรือระหว่างปี 2559-2562 มีคดีเกิดขึ้น 218 -380 คดี เมื่อเทียบกับ ปี 2557-2558 ถือว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
สำนักข่าวอิศรา ข้อมูลจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) ระบุว่า ผลการดำเนินงานทวงคืนพื้นที่ป่าชายเลนภายใต้การดำเนินงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ปีงบประมาณ 2557-2562 ข้อมูลวันที่ 31 มีนาคม 2562ได้จำแนกลักษณะการดำเนินงานเป็น 10 สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(สบทช.)ครอบคลุมการดูแล 24 จังหวัด ซึ่งมีการรายงานจำนวนคดีบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลน พื้นที่และจำนวนผู้ต้องหา(รายละเอียดตามรูปด้านบน)
ผลสรุปข้อมูลการดำเนินงานทวงคืนพื้นที่ป่าชายเลนตั้งแต่ปี 2557ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2562 ทั้ง 24 จังหวัด10 สบทช. ปรากฎว่ามีจำนวนคดีบุกรุกทั้งสิ้น 1,165 คดี จำนวนพื้นที่ 49,235.11ไร่ และมีผู้ต้องหา 410 ราย ทั้งนี้จังหวัดที่มีจำนวนคดีบุกรุกมากที่สุดคือ จังหวัดจันทบุรีอยู่ในพื้นที่ สบทช.1 มีจำนวน 251 คดี พื้นที่ 18,339.11 ไร่มีผู้ต้องหา 54 รายรองลงมาคือจังหวัดสตูลอยู่ในพื้นที่ สบทช.10 มีจำนวน 149 คดี พื้นที่ 2,178.06ไร่ มีผู้ต้องหา 64 ราย
ในขณะเดียวกันจังหวัดที่ไม่มีตัวเลขของการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนคือ จังหวัดสมุทรปราการพื้นที่ สบทช.2 จังหวัดกรุงเทพฯพื้นที่ สบทช.3 จังหวัดพัทลุง พื้นที่ สบทช.6 และจังหวัดนราธิวาสพื้นที่ สบทช.7
สำหรับจังหวัดอื่น ๆ สรุปรายละเอียดได้ดังนี้ พื้นที่ สบทช.1 จังหวัดตราดมีจำนวน 106 คดี พื้นที่ 4,212.77ไร่มีผู้ต้องหา 38 รายจังหวัดระยองมีจำนวน 38 คดี พื้นที่ 3,302.62 ไร่มีผู้ต้องหา 19 ราย
พื้นที่ สบทช.2 จังหวัดชลบุรีมีจำนวน 5 คดี พื้นที่ 81.20 ไร่มีผู้ต้องหา 2 รายจังหวัดฉะเชิงเทรา มีจำนวน 1 คดี พื้นที่ 0.21 ไร่มีผู้ต้องหา 1 ราย
พื้นที่ สบทช.3 จังหวัดสมุทรสาครมีจำนวน 3 คดี พื้นที่ 24.52 ไร่มีผู้ต้องหา 2 รายจังหวัดสมุทรสงครามมีจำนวน 6 คดี พื้นที่ 280.20 ไร่มีผู้ต้องหา 3 ราย
พื้นที่ สบทช.4 จังหวัดเพชรบุรีมีจำนวน 15 คดี พื้นที่ 1,858.52 ไร่มีผู้ต้องหา 1 ราย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีจำนวน 12 คดี พื้นที่ 324.44 ไร่มีผู้ต้องหา 13 ราย
พื้นที่ สบทช.5 จังหวัดชุมพรมีจำนวน 37 คดี พื้นที่ 3,972.22ไร่มีผู้ต้องหา 17 ราย จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีจำนวน 24 คดี พื้นที่ 2,091.58 ไร่มีผู้ต้องหา 2 ราย
พื้นที่ สบทช.6 จังหวัดนครศรีธรรมราชมีจำนวน 5 คดี พื้นที่ 25.19 ไร่มีผู้ต้องหา 2 ราย จังหวัดสงขลามีจำนวน 3 คดี พื้นที่ 610.64 ไร่มีผู้ต้องหา 1 ราย
พื้นที่ สบทช.7 จังหวัดปัตตานีมีจำนวน 4 คดี พื้นที่ 576.49 ไร่มีผู้ต้องหา 1 ราย
พื้นที่ สบทช.8 จังหวัดระนองมีจำนวน 73 คดี พื้นที่ 2,214.88 ไร่มีผู้ต้องหา 46 ราย จังหวัดพังงามีจำนวน 119 คดี พื้นที่ 2,840.60 ไร่มีผู้ต้องหา 28 ราย
พื้นที่ สบทช.9 จังหวัดภูเก็ตมีจำนวน 63 คดี พื้นที่ 803.31 ไร่มีผู้ต้องหา 37 ราย จังหวัดกระบี่มีจำนวน 136 คดี พื้นที่ 3,116.36 ไร่มีผู้ต้องหา 42 ราย
และพื้นที่ สบทช.10 จังหวัดตรังมีจำนวน 115 คดี พื้นที่ 2,382.21 ไร่มีผู้ต้องหา 37 ราย
ด้านนายรัชชัย พรพา ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปรามกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากผลการดำเนินการทวงคืนพื้นที่ป่าชายเลนคืนซึ่งที่ผ่านมามีจำนวณประมาณ50,000 ไร่ขณะนี้ได้มีการฟี้นฟูพื้นที่ดังกล่าวไปแล้วประมาณ 20,000ไร่
ในบางคดีที่ไม่มีผู้ต้องหาทาง ทช.ก็จะเข้าฟื้นฟูพื้นที่ทันทีซึ่งเป็นการทำตามเป้าหมายหลักคือการทวงคืนเพื่อฟื้นฟู และสำหรับบางคดีที่อาจจะมีความผิดปกติเช่นในขั้นสำนวนคดีหรืออาจจะมีการแทรกแซงจากส่วนอื่น ทางหน่วยงานได้จัดให้เจ้าหน้าที่ทำการวิเคราะห์คดีต่างๆเพื่อที่จะไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดให้ได้มากที่สุด
ขณะที่นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งกล่าวว่าการดำเนินงานส่วนมากเป็นการจัดการกับปัญหาการบุกรุกพื้นที่ของคดีที่ผ่านมา โดยทาง ทช.จะมุ่งเน้นปัญหาในพื้นที่แปลงใหญ่ที่เป็นของนายทุนอันดับแรก แต่สำหรับพี่น้องประชาชนซึ่งมีตัวเลขประมาณ 800-900 ชุมชนทั่วประเทศที่มีการอยู่อาศัยในเขตพื้นที่ป่าชายเลน ทางหน่วยได้รับการมอบหมายจากทางรัฐบาลให้ดูแลจัดพื้นที่อยู่อาศัยซึ่งกำหนดกรอบการดำเนินงานให้แล้วเสร็จภายในปีพ.ศ. 2563
สุดท้ายอธิบดีกรมทรัพยากรชายฝั่งกล่าวขอบคุณภาคประชาชนที่ให้ความสำคัญในการเข้ามามีส่วนร่วมในการทวงคืนพื้นที่ป่าชายเลนมีการแจ้งเบาะแสการบุกรุก รวมทั้งมีโครงการเข้าไปฟื้นฟูป่าชายเลนเสมอกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งยืนยันว่าจะดูแลผืนป่าเลนที่มีปัญหาให้ดีที่สุด
ทั้งหมดคือข้อมูลคดีบุกรุกป่าชายเลนที่ ทช. ต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา:สำนักข่าวอิศรา