Admin 21 มี.ค. 2562

"บล็อกเกเบี้ยน" สกัดน้ำเสียลงทะเลอ่าวนาง

กระบี่ - อบต.อ่าวนาง ทำบล็อกเกเบี้ยน ลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยม วางลงไปในคลอง

พร้อมกับนำก้อนหินใส่ลงไป เพื่อขวางทางน้ำ ไม่ให้น้ำเสียไหลลงทะเล แก้ปัญหาเบื้องต้น

2-1

วันที่ 20 มีนาคม 2562 นายพันคำ กิตติธรกุล นายก อบต.อ่าวนาง พร้อมด้วย พ.อ.ชัยพิพัฒน์ รันสูงเนิน รอง ผอ.กรมน.จ.กระบี่ พ.อ.ชัยพิพัฒน์ รันสูงเนิน รอง ผอ.กอ.รมน.จ.กระบี่ นายชวน ภูเก้าล้วน ประธานสภาการศึกษา จ.กระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ สมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ และผู้นำชุมชนร่วมลงพื้นที่ติดตามการแก้ปัญหาน้ำเสียคลองจาก

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ทำบล็อกเกเบี้ยน ลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยม วางลงไปในคลอง พร้อมกับนำก้อนหินใส่ลงไป เพื่อขวางทางน้ำ ไม่ให้น้ำเสียไหลลงทะเล พร้อมกับนำเครื่องสูบน้ำ ของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ มาติดตั้งเพื่อสูบน้ำเสียทิ้งยังบนฝั่ง ไม่ให้ไหลลงทะเล จนกว่าจะสร้างเขื่อนเสร็จ

2-2

นายพันคำ กิตติธรกุล นายก อบต.อ่าวนาง กล่าวว่า จากการเกิดปัญหาน้ำเสียไหลลงทะเลขณะทำการขุดลอกโคลนเพื่อนำไปฝังกลบยังชายเขานั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้แก้ปัญหาโดยทำบล็อกกล่องเกเบี้ยน บริเวณปากคลองวางป้องกันน้ำเสียไหลลงทะเล ระหว่างการขุดลอกคลองจาก และนำเครื่องสูบน้ำเสียขึ้นไปบนฝั่งเพื่อป้องกันน้ำเสียไหลลงทะเลระหว่างการก่อสร้างฝาย ทั้ง 4 ฝาย ซึ่งการทำฝายจะใช้กระสอบบรรจุทรายและก้อนหินขนาด 30-40 เซนติเมตร วางสูงจากท้องคลองจาก ระดับ 1 เมตร 4 ช่วง คาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำเสียได้ในระดับหนึ่ง ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างฝายซึ่งได้รูปแบบ กำหนดเป็น 4 ช่วงฝาย โดยฝายช่วงที่ 1 เป็นการกรองน้ำเพื่อให้ดับกลิ่นโดยการเติมจุลินทรีย์ EM ฝายช่วงที่ 2 เป็นการเติมอากาศให้น้ำที่ถูกกรองมาจากฝายช่วงแรกโดยการใช้ กังหันตีน้ำหรือต้นไม้ที่ดูดซับสารอินทรีย์ ฝายช่วงที่ 3 เป็นช่วงที่ทำให้น้ำตกตะกอน และ ฝายช่วงที่ 4 เป็นการกรองน้ำก่อนล้นลงชายหาด อบต.อ่าวนางได้จัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างฝายทั้งจำนวนเงิน 462,596 บาท เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2562 ขณะที่นายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จังหวัดกระบี่ได้สั่งการให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ เข้มงวดสถานที่จำหน่ายหรือสะสมอาหาร และโรงแรมที่พัก จะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ประกอบด้วย. ต้องมีระบบบำบัดน้ำเสียในสถานประกอบตามจำนวนห้องพัก มีใบเสร็จค่ากำจัดขยะ มีหลักฐานการสูบสิ่งปฏิกูล มีถังดับเพลิง มีความสะอาดของสถานที่ตามหลักสุขาภิบาลอาหารซึ่งหากสถานประกอบการใดได้รับการตรวจแล้วไม่ผ่าน จะแจ้งเป็นหนังสือให้ปรับปรุงภายใน 7 วัน หากพ้นกำหนดจะดำเนินการตาม พรบ.สาธารณสุข พ.ศ.2535

ที่มา:สำนักข่าวเนชั่น